ผลไม้ทำรายได้เข้าประเทศ! จุรินทร์ ชูผลสำเร็จ 7 เดือนแรก ส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูป 131,166 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.31 ล่าสุดผล MOP ผลไม้ 3 ภาคอีก 2,394 ล้านบาท

   นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และนายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นสักขีพยานในพิธีประกาศความตกลงซื้อขายผลไม้เพื่อการส่งออก (Memorandum of Purchasing : MOP) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

   นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ผลไม้ไทยถือเป็นสินค้าเป้าหมายสำคัญในการส่งออกเพื่อทำรายได้ให้กับประเทศ โดยใน 7 เดือนแรกของปีนี้ มียอดการส่งออกผลไม้สดและผลไม้แปรรูปมูลค่าสูงถึง 131,166 ล้านบาทขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 48.31 และมีเป้าหมายส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 โดยงานสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกผลไม้เพื่อทำรายได้เข้าประเทศประกอบด้วย 4 งานใหญ่ ได้แก่ 1.กิจกรรมจัดคู่เจรจาทางการค้าออนไลน์ (Online Business Matching: OBM) 2.กิจกรรมส่งเสริมการขายการบริโภคผลไม้ในห้างสรรพสินค้าและตลาดสำคัญในต่างประเทศ 3.กิจกรรมการจัด Thai Fruits Golden Months หรือเดือนทองของการบริโภคผลไม้ไทยในประเทศต่างๆ และ4.กิจกรรมขายผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆโดยเฉพาะแพลตฟอร์มสำคัญในระดับโลกเช่น bigbasket.com ของอินเดีย และTMall ของจีน เป็นต้น

   ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมThai Fruits Golden Months ในประเทศจีนได้จัดไปแล้วใน 8 เมือง ประกอบด้วย หนานหนิง ไห่หนาน ฉงชิ่ง ชิงต่าว เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ต้าเหลียน และฝอซาน มีมูลค่าการเจรจ้าการค้าถึง15,466 ล้านบาท และยังมีแผนงานที่เหลืออีก 5 เมืองคือ เซี่ยเหมิน หนานชาง คุนหมิง อู่ฮั่น และหนานหนิง ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท รวมแล้วเฉพาะการจัด  Thai Fruits Golden Monthsในจีน 13 เมืองสามารถทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท

   สำหรับกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าสินค้าออนไลน์ (Online Business Matching : OBM)ของผลไม้สดและแปรรูป ได้ดำเนินการแล้ว2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งการส่งเสริมการจับคู่ซื้อขายผลไม้สดและแปรรูปจากภาคตะวันออกเมื่อวันที่ 24-25 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ส่งออกไทย 39 บริษัทผู้นำเข้าจากต่างประเทศ 179 บริษัทจาก 37 ประเทศ เจรจาซื้อขายสำเร็จ392 คู่ มีมูลค่าเจรจาการค้า 2,276 ล้านบาท โดยประเทศที่เข้าร่วมเจรจาการค้ามากที่สุด ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฮังการี อินเดีย รัสเซียและสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ผลไม้ที่ได้รับความสนใจจากตลาดต่างประเทศสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว สับปะรดและมังคุด

   ส่วนที่ 2 การจับคู่เจรจาการค้าผลไม้สดและแปรรูปจากภาคใต้และภาคเหนือ ในวันที่ 22-23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้ส่งออกไทย 65 บริษัทผู้นำเข้า 72 บริษัทจาก 20 ประเทศ และมีการเจรจาซื้อขายสำเร็จ 257 คู่ มีมูลค่าเจรจาการค้า1,865 ล้านบาทโดยประเทศที่เข้าร่วมเจรจาการค้ามากที่สุด ได้แก่จีน เมียนมา อินเดีย ฮ่องกงและกัมพูชา ผลไม้สำคัญประกอบด้วยมะพร้าว สับปะรด มะม่วง ลำไย

   การเจรจาจับคู่ซื้อขายผลไม้ทั้ง2 ครั้งมีมูลค่าการเจรจาซื้อขายรวมมากถึง 4,141 ล้านบาท ส่งผลให้พิธีประกาศความตกลงซื้อขายผลไม้เพื่อการส่งออก (Memorandum of Purchasing : MOP) ครั้งนี้สามารถประกาศการจับคู่ที่มีกำหนดการส่งมอบที่เป็นรูปธรรมจำนวน 21 คู่ เป็นมูลค่า2,394 ล้านบาทซึ่งเป็นผู้ส่งออกของไทย 21 บริษัท และผู้นำเข้า 21 บริษัทจาก 16 ประเทศประกอบด้วยอินเดีย ลาว เมียนมา สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สเปน เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย อาร์เจนตินา กัมพูชา ยูเออีและมาเลเซีย ผลไม้สำคัญประกอบด้วย ทุเรียน มะม่วง ลำไย มังคุดและมะพร้าว เป็นต้น

   “ขอมอบนโยบายให้พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์วันนี้ช่วยเจรจาจับคู่เพื่อระบายผลไม้ที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้โดยเฉพาะลำไยภาคเหนือและลองกองที่กำลังจะออกตามมา โดยบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างเซลล์แมนจังหวัด และทีมเซลล์แมนประเทศประจำสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ โดยวางแผนล่วงหน้าเชิงรุก เตรียมนำผลิตผลไม้คุณภาพนำออกขายอย่างทั่วถึง จากจังหวัดต่อจังหวัด ส่งต่อให้เป็นภารกิจของจังหวัดกับทั่วโลกต่อไป" นายจุรินทร์ กล่าว

###