Lamborghini Huracán Tecnica เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ผสานโลกแห่งดีไซน์สุดล้ำและวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่เร้าใจด้วยสมรรถนะเหนือชั้นทั้งบนท้องถนนและสนามแข่ง
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังของ Huracán นำเสนอวิวัฒนาการใหม่แห่งดีไซน์อากาศพลศาสตร์และระบบวิศวกรรมชั้นเลิศ
- ขุมพลังเครื่องยนต์ V10 5.2L แบบNA มอบกำลังสูงถึง 640 แรงม้าและแรงบิด 565 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที
- ระบบ LDVI (Lamborghini DinamicaVeicoloIntegrata) และการคาลิเบรตโหมดขับขี่เฉพาะแบบ ตอบโจทย์การขับขี่อเนกประสงค์ทั้งในชีวิตประจำวันและบนสนามแข่งขันอันน่าตื่นใจ
- เทคโนโลยียานยนต์น้ำหนักเบาส่งผลให้อัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ที่ 2.15 กก./แรงม้า
- แรงกดด้านหลังเพิ่มขึ้น 35% และแรงต้านลดลง 20%เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Huracán EVO RWD
- ระบบระบายความร้อนเบรกรุ่นใหม่และการปรับปรุงท่อไอเสีย มอบพลังเสียงดังกระหึ่มกว่าเดิม
- นำเสนอออปชันสีและอุปกรณ์ตกแต่งมากมาย พร้อมโปรแกรมการแต่งรถ Ad Personamสำหรับแฟนลัมโบร์กินีตัวจริง
กรุงเทพฯ 15 มิถุนายน 2565 –เรนาสโซ มอเตอร์ (Renazzo Motor) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทยเปิดตัวไอคอนิกความแรงใหม่ล่าสุดจากแบรนด์กระทิงดุ “Lamborghini HuracánTecnica” สุดยอดยนตรกรรมเครื่องยนต์ V10 แบบขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหม่ ที่พัฒนาเพื่อนักขับแนวหน้าผู้แสวงหาความสมบูรณ์แบบแห่งไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับและประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนนโดยชื่อTecnicaสื่อถึงความล้ำหน้าแห่งวิวัฒนาการด้านเทคนิครถยนต์ของตระกูลHuracán ซึ่งมอบความโดดเด่นที่จะสะกดทุกสายตาพร้อมนวัตกรรมการออกแบบรูปลักษณ์อันล้ำสมัยตลอดจนดีไซน์อากาศพลศาสตร์รุ่นใหม่ช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ที่ไม่เป็นรองใครรวมถึงเสถียรภาพและความเรียบง่ายในการใช้งานโดยเฉพาะในยามขับเคี่ยวบนสนามแข่งขันอันดุเดือดเครื่องยนต์ที่ใช้รุ่นเดียวกับHuracán STOโดยเพิ่มกำลังเครื่องยนต์อีก30 แรงม้าจากรุ่นHuracán EVO RWD พร้อมระบบส่งกำลังที่ให้แรงบิดถึง565 นิวตันเมตรสูงสุด6,500 รอบต่อนาทีและอัตราเร่งแรงกว่าเดิมจาก0-100 กม./ชั่วโมงภายในเวลาเพียง3.2 วินาทีเท่านั้นงานออกแบบยานยนต์น้ำหนักเบาของTecnicaยังมาพร้อมระบบLDVI ที่ผ่านการคาลิเบรตใหม่และโหมดการขับขี่ที่ตั้งค่าระบบกันสะเทือนให้สอดรับการใช้งานเฉพาะแบบรวมถึงการบังคับเลี้ยวล้อหลังและการปรับปรุงระบบลดความร้อนเบรกรุ่นล่าสุดช่วยให้นักขับสัมผัสถึงประสบการณ์การขับขี่รถยนต์Huracán ที่สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์เพราะHuracán Tecnicaคือการระเบิดพลังสร้างสรรค์สุดยอดรถยนต์ที่ผสานโลกสองใบของงานดีไซน์และระบบวิศวกรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์เพื่อมอบซูเปอร์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งขัน
งานเปิดตัว Lamborghini HuracánTecnica ได้รับเกียรติจาก สเตฟานวิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี บินตรงแบบเอ็กซ์คลูซีฟมายังประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมจารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ โดยกล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของเรา ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาร่วมนำเสนอ Tecnica แก่แฟน ๆ ลัมโบร์กินีในเมืองไทย ด้วยตนเอง เพราะ Lamborghini Huracán Tecnica คือการผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และระบบวิศวกรรมชั้นเลิศของลัมโบร์กินีเพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ตระกูล Huracán ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับเคี่ยวในสนามแข่งขันอันแสนเร้าใจ หรือการขับขี่บนท้องถนนในชีวิตประจำวัน เมื่ออยู่กับ Tecnica นักขับจะมั่นใจได้ถึงสัมผัสที่เป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ และพื้นถนนด้วยประสิทธิภาพการควบคุมทุกระบบรถยนต์ที่ง่ายดายเพียงปลายนิ้วในทุกโหมดการขับขี่และทุกสภาพแวดล้อมถือเป็นการเชิดชูเทคนิคแห่งรถยนต์อย่างแท้จริงและสัมผัสทางกายภาพอันเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ โดย Tecnica ถือเป็นการเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ตระกูล Huracán ให้สมบูรณ์แบบโดยเป็นโมเดลที่อยู่ระหว่างรุ่น RWD กับรุ่นที่เน้นการแข่งขันในสนามแข่งอย่างจริงจังอย่าง STO โดย Tecnica นำเสนอเทคโนโลยีประสิทธิภาพการขับขี่อันไร้ที่ติด้วยเครื่องยนต์ V10 ของ Huracán ที่มาพร้อมรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยงามอย่างน่าหลงใหล”
ฟรานเชสโก้ สคาร์ดาโอนี่ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิลัมโบร์กินี กล่าวว่า “เราภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอ HuracánTecnica ให้แก่ลูกค้าคนสำคัญและสื่อมวลชนในกรุงเทพฯ ได้สัมผัสตัวจริงกันอย่างใกล้ชิดในวันนี้ และยังถือเป็นการเผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ด้วยคาแรกเตอร์แบบอเนกประสงค์ที่มอบความสุดยอดทั้งการขับขี่บนท้องถนนและสนามแข่งขัน ทำให้ HuracánTecnica มอบจิตวิญญาณแห่งการพุ่งทะยานให้แก่นักขับทุกคน ด้วยสมรรถนะที่เหนือล้ำภายใต้รูปลักษณ์อันสง่างามที่ยากจะลืมเลือนของรถยนต์ตระกูลHuracán”
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริษัท เรนาสโซ มอเตอ ร์จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทยกล่าวว่า “หลังจากลัมโบร์กินีได้เผยโฉม Lamborghini Huracán Tecnica พร้อมกันทั่วโลกในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่สาวกกระทิงดุในเมืองไทยจะได้ยลโฉมLamborghini Huracán Tecnica คันจริงเป็นครั้งแรกกันอย่างใกล้ชิดที่โชว์รูมLamborghini BangkokโดยLamborghini HuracánTechnicaเป็นสุดยอดยนตรกรรมเครื่องยนต์ V10 แบบขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นล่าสุดของตระกูล Huracánที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักขับแนวหน้าผู้แสวงหาอิสระแห่งการขับขี่ที่สนุกเร้าใจในทุกวันทั้งบนสนามแข่งขันและท้องถนน ซึ่งเรามั่นใจว่าโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกประสบการณ์การขับขี่และได้การตอบรับที่ดีจากแฟนๆลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”
Tecnica สู่จิตวิญญาณแห่งระบบวิศวกรรมขั้นสุดยอด
Huracán Tecnicaใช้เครื่องยนต์ 5.2L ซึ่งให้กำลังเครื่องยนต์ถึง 640แรงม้าเช่นเดียวกับ STOพร้อมแรงบิดสูงถึง 565 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที มอบสัมผัสแห่งการขับขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจ หากมอบความสบายสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันพร้อมสุดยอดพลังและแรงบิดที่พร้อมใช้งานทุกเมื่อ
ด้วยน้ำหนักเปล่าเพียง 1,379 กก. ทำให้ Tecnicaมีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ที่ 2.15 กก./แรงม้า พร้อมเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ที่ผ่านการปรับแต่งให้เฉียบคมน่าเกรงขามเมื่อทำการเร่งเครื่อง ในขณะที่ห้องโดยสารภายในถูกออกแบบให้มีระดับเสียงที่ฟังสบายด้วยดีไซน์อะคูสติกขั้นสูง
หัวใจสำคัญของยานยนต์ Huracánรุ่นนี้คือระบบ LDVI (Lamborghini DinamicaVeicoloIntegrata) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมทุกฟังก์ชั่นการเคลื่อนไหวของยานยนต์ผ่านการผสานการทำงานของระบบต่าง ๆ และการตั้งค่าระบบการควบคุมล่วงหน้า Feed-forward แบบเรียลไทม์เพื่อสร้างไดนามิกแห่งการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
ระบบขับเคลื่อนล้อหลังของ Tecnica ผสานการทำงานของการบังคับเลี้ยวล้อหลังเข้ากับ Direct Steering Ratio และ Torque Vectoring ร่วมกับระบบPerformance Traction Control System (P-TCS) ที่ผ่านการปรับแต่งใหม่และการตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่มีเฉพาะใน Tecnica โดยในแต่ละโหมดการขับขี่ทั้ง STRADA, SPORT หรือ CORSA จะมีการคาลิเบรตระบบไดนามิกเฉพาะตัว เพื่อให้ Tecnica มอบการตอบสนองที่แตกต่างอย่างโดดเด่นในโหมดการขับขี่แต่ละแบบ
โหมด STRADAระบบขับเคลื่อนล้อหลังจะมอบความเสถียรและการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบ Torque Vectoring และระบบ P-TCS โดยทั้งเครื่องยนต์และกระปุกเกียร์ถูกตั้งค่าให้มอบความสบายในการขับขี่ประจำวันในทุกฟังก์ชั่นที่ใช้งาน
เมื่อเลือกโหมด SPORT นักขับจะได้สัมผัสประสบการณ์อันเร้าใจจากระบบขับเคลื่อนล้อหลัง โดยที่ระบบ P-TCS จะปล่อยให้รถมีอาการ Oversteer แต่ยังคอยควบคุมให้ความมั่นใจและปลอดภัยแก่นักขับ ในขณะที่ระบบ Torque Vectoring จะช่วยเพิ่มความฉับไวและการตอบสนองอยู่ภายใต้การควบคุมของนักขับโดยสมบูรณ์ พร้อมระบบส่งกำลังสามารถตอบสนองได้อย่างฉับไวพร้อมพุ่งทะยานเมื่อสัมผัสสั่งการเร่งเครื่อง และระบบเกียร์ 7 สปีดยังทำให้นักขับสัมผัสถึงการเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้งที่จะกระตุ้นเร้าทุกโสตประสาท
สำหรับโหมด CORSA จะปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งสนามแข่งขันทั้งของยานยนต์และนักขับ โดย Tecnica จะตอบสนองต่อทุกการสั่งการอย่างเฉียบคม พร้อมเสียงคำรามอันน่าเกรงขามอันเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีที่จะทำให้ทุกคนนึกถึงลวดลายอันเร้าใจในสนามแข่งขัน ระบบส่งกำลังถูกคาลิเบรตเพื่อเสริมการตอบสนองคันเร่งสูงสุดในสนามแข่ง รวมถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้น ด้วยระบบ LDVI ที่จะทำให้Tecnica ทำงานอย่างแม่นยำและฉับไวสูงสุด ซึ่งรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะในระดับสูงสุดโดยระบบ Torque Vectoring และระบบ P-TCS ตามลำดับ
สมรรถนะเหนือระดับยังมาจากระบบระบายความร้อนเบรกรุ่นใหม่ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์ในสนามแข่งรถลัมโบร์กินี มอบประสิทธิภาพการเบรกที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่งขัน โดยวัสดุเบรกคาร์บอนเซรามิกของ Tecnicaใช้ท่อดักลมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อดักลมเข้าจานเบรกและคาลิปเปอร์โดยตรงเพื่อกระจายความร้อนให้มากที่สุดและยังช่วยลดอุณหภูมิน้ำมันเบรกและลดระยะของแป้นเบรก การลดอุณหภูมิจานเบรกยังช่วยถนอมผ้าเบรกได้อีกด้วย
สุดยอดดีไซน์ยานยนต์ตามหลักอากาศพลศาสตร์
Huracán Tecnicaนำเสนอการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ที่หรูหราสะดุดตา โดยยังคงรักษาสองคาแรกเตอร์สำคัญทั้งการเป็นซูเปอร์สปอร์ตระดับไอคอนิกและภาพลักษณ์ของรถแข่งสุดเร้าใจในทุกมุมมอง ประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์และระบบวิศวกรรมยานยนต์น้ำหนักเบาจึงถูกนำมาใช้ในการออกแบบทุกองค์ประกอบพร้อมกับการคงความหรูหราโดดเด่น เพื่อให้Tecnicaแตกต่างกับยานยนต์ Huracánรุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจน
ดีไซน์ปรับปรุงใหม่นี้สร้างรูปลักษณ์ของนักล่าอันแข็งแกร่งให้กับ Tecnicaโดยยานยนต์ส่วนหน้าโค้งเข้าหาตัวพร้อมด้านข้างที่ดูแข็งแกร่งบึกบึน ผสานการออกแบบฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์เต็มผืนน้ำหนักเบา สำหรับกันชนใหม่ใช้ดีไซน์ Black Ypsilonจากรุ่นTerzoMillennio ร่วมกับการใช้ Air Curtainเป็นครั้งแรกของตระกูล Huracánส่วนลิ้นกันชนด้านหน้าออกแบบให้อยู่ระดับต่ำพร้อมครีบระบายอากาศเพื่อจ่ายอากาศให้ไหลผ่านล้อ จึงช่วยเพิ่มแรงกดและระบายความร้อนได้พร้อมกัน การตกแต่งส่วนล่างของกระจกหน้าในโทนดำยังช่วยเพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับดีไซน์ยานยนต์น้ำหนักเบาได้อย่างน่าประทับใจ
การออกแบบรูปทรงที่แตกต่างทำให้ยานยนต์รุ่นนี้โดดเด่นจากรุ่นอื่น ๆ ในตระกูล Huracánโดยมีความยาวมากกว่า Huracán EVO6.1ซม. ส่วนความสูงและความกว้างเท่ากัน แต่กลับให้ความรู้สึกเตี้ยกว่าและกว้างกว่า อีกทั้งยังใช้ดีไซน์แนวเส้นกรอบกระจกข้างจากรุ่น Essenza SCV12ดีไซน์โทนสีดำในส่วน Ypsilon ด้านหน้ายังทอดยาวต่อเนื่องไปยังด้านข้างตัวถังถึงช่องลมเข้าด้านข้าง ตอกย้ำถึงไดนามิกแห่งการพุ่งทะยานที่ไม่หยุดนิ่ง โดยส่วนหลังคาสามารถเลือกออปชันทำสีดำตัดกับสีรถได้
สุดยอดสถาปัตยกรรมยานยนต์ราวประติมากรรมอันโดดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของลัมโบร์กินีสามารถเห็นได้จากดีไซน์ปรับปรุงใหม่ในส่วนหลัง โดยมีการออกแบบรูปทรงใหม่ให้มีหน้าต่างกระจกหลังแนวตั้งแบบใหม่เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ในขณะที่ฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์ดีไซน์ใหม่ช่วยเน้นย้ำถึงหัวใจแห่งยานยนต์ V10ของ Tecnicaรูปลักษณ์ด้านหลังอันทรงพลังยังมาจากองค์ประกอบอื่น ๆ ทั้งกันชนแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มอัตราอากาศไหลเข้าได้สูงสุด ดิฟฟิวเซอร์สีเดียวกับตัวรถหรือสีดำซึ่งเป็นออปชันเสริม และท่อไอเสียหกเหลี่ยมแบบใหม่ที่ช่วยขับพลังเสียงกระหึ่มสุดเร้าใจจากระบบส่งกำลังของTecnicaให้ดังกึกก้องยิ่งขึ้น
นอกจากการตกแต่งปีกหลังแบบปรับไม่ได้ของ Tecnica จะช่วยเสริมสุนทรีภาพแห่งยานยนต์ด้วยเค้าโครงเส้นสายที่พลิ้วไหวโดดเด่น การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์นี้ยังช่วยเสริมแรงกดส่วนหลังได้มากขึ้นถึง 35%เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Huracán EVO RWDทั้งยังการันตีว่าจะไม่เกิดแรงต้านเพิ่มขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ยังช่วยให้แรงต้านลดลงถึง20%เลยทีเดียว จึงช่วยเพิ่มสมดุลการไหลของอากาศและเสริมเสถียรภาพในขณะเบรกและเลี้ยวด้วยความเร็ว ช่วงล่างของ Tecnicaยังเสริมประสิทธิภาพด้วยตัวเบี่ยงลมแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดียิ่งขึ้น
ล้อไดมอนด์คัตลาย Damisoขนาด 20 นิ้วซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Lamborghini Vision GTสวยงามด้วยดีไซน์หกเหลี่ยมและใช้ร่วมกับยาง Bridgestone Potenza Sport
ยนตกรรมที่สร้างสรรค์เพื่อนักขับตัวจริง
แนวคิดการขับขี่แบบอเนกประสงค์ของ Huracán Tecnica ยังครอบคลุมถึงการตกแต่งภายใน ตลอดจนการแต่งรถสำหรับลูกค้าเฉพาะรายในหลากหลายออปชันรูป เพราะ Huracán Tecnica มอบทุกสิ่งที่นักขับต้องการ ทั้งรูปลักษณ์ที่หรูหรา การตั้งค่าไดนามิกและการตอบสนองต่อสัมผัสของผู้ขับขี่ การเชื่อมต่อของยานยนต์ หากสิ่งที่สำคัญที่สุดคือขีดความสามารถในการขับขี่ทั้งบนท้องถนนและในสนามแข่ง
สำหรับการตกแต่งภายใน เบาะนั่งแนวสปอร์ตที่ปรับระดับความสูงได้ถูกติดตั้งในตำแหน่งคนขับ โดยสามารถเลือกออปชันเสริมได้ทั้งบานประตูน้ำหนักเบา ซุ้มล้อหลังและสกรูล้อหลังวัสดุไททาเนียมน้ำหนักเบา และเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวสำหรับผู้ที่ต้องการขับขี่ในสนามแข่งขันบ่อยครั้ง
อินเตอร์เฟซระบบ HMI ที่สวยงามถือเป็นเอกลักษณ์ของTecnica แผงควบคุมของนักขับถูกลดทอนสีสันและเน้นความสะดวกรวดเร็วในการอ่านข้อมูลบนซุ้มจอขนาดใหญ่แบบใหม่บริเวณด้านหน้าคนขับ สำหรับจอแสดงผลคอนโซลกลางติดตั้งองค์ประกอบเพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่สำหรับผู้โดยสาร ทั้งฟังก์ชั่นระบบ LDVI ที่แสดงผลแบบเรียลไทม์ ตลอดจนฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อทั้งหมด ทั้งApple CarPlay, Android Auto และ Amazon Alexa ระบบ HMI ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น STO ยังมีระบบเชื่อมต่อการควบคุมระยะไกลและบันทึกจุดหมายปลายทางและจำนวนครั้งของการเดินทาง โดยเชื่อมต่อผ่านแอปUNICA
โทนสีและรูปแบบการตกแต่งมาตรฐาน ตลอดจนออปชั่นเสริมต่าง ๆ มีให้เลือกทั้งแนวหรูหราสง่างามและแนวสปอร์ตอันปราดเปรียว สีมาตรฐานภายนอกมีให้เลือก 8 สี และออปชั่นสีเพิ่มเติมอีกมากกว่า 200 สีจากโปรแกรมแต่งรถพิเศษ Ad Personamรวมถึงการตกแต่งภายในแบบใหม่ Alcantara ที่มีเฉพาะรุ่น Tecnica และออปชันเอ็กซ์คลูซีฟอีกมากมาย ทั้งดีไซน์การเย็บลายและสีของด้ายตะเข็บ และการปักสัญลักษณ์ Tecnica บนเบาะนั่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
นอกจากออปชั่นระดับเอ็กซ์คลูซีฟของ Tecnica แผนกโปรแกรมการแต่งรถพิเศษ Ad Personamของลัมโบร์กินียังนำเสนอทางเลือกการตกแต่งยานยนต์ Huracán Tecnica ของลูกค้าด้วยสีสันและรูปแบบการตกแต่งตามจินตนาการได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ข้อมูลด้านเทคนิค
CHASSIS AND BODY |
|
Chassis |
Hybrid chassis made from aluminum and carbon fiber |
Body shell |
Outer skin made from aluminum and composite material |
Suspension |
Double wishbone fully independent suspension |
Springs and dampers |
Steel springs and hydraulic dampers, “MagneRide” electromagnetic damper control |
Electronic Stability Control (ESC) |
ESC/ABS characteristics can be adjusted via ANIMA, |
Steering |
Electromechanical power steering |
Brakes |
Carbon-ceramic brakes with fixed monoblock calipers with 6 pistons (front) and 4 pistons (rear), in aluminum, CCB disks |
Brake discs |
Specially contoured CCB discs, ventilated and cross drilled |
Tires (standard) |
BRIDGESTONE Potenza Sport245/30 R20 (front) – 305/30 R20 (rear) |
Wheels (standard) |
8.5J x 20’’ (front) 11J x 20’’ (rear) |
Mirrors |
Electrically controlled exterior mirrors |
Airbags |
Full size dual-stage front airbags. Full size lateral airbags. |
ENGINE |
|
Type |
Ten-cylinder V, 90° |
Displacement |
5204 cm3 (317.57 cu in) |
Bore / stroke |
Ø 84,5 mm x 92,8 mm (3.33 x 3.65 in) |
Valve control |
Intake and exhaust camshafts with |
Compression |
12.7 : 1 |
Max. power |
470 kW / 640 CV at 8,000 rpm |
Max. torque |
565 Nm (417 lb. ft.) at 6,500 rpm |
Emissions class |
EURO 6 |
Exhaust treatment |
Two catalysts with lambda regulation |
Cooling system |
Water and oil cross flow cooling |
Engine Management |
Bosch MED 17 Master Slave |
Lubrication |
Dry sump |
DRIVETRAIN |
|
Type |
Rear-wheel drive |
Transmission |
7-speed LDF dual-clutch transmission, |
Clutch |
Double plate clutch ∅187 mm (7.36 in)
|
PERFORMANCE |
|
Top Speed |
325 km/h |
0–100 km/h |
3.2 s |
0–200 km/h |
9.1 s |
Braking (100-0 km/h) |
31.5 m |
DIMENSIONS |
|
Wheelbase |
2,620 mm (103.15 in) |
Length |
4,567 mm (179,80 in) |
Width |
1,933 mm (76.10 in) |
Width (incl. ext. mirrors) |
2,236 mm (88.03 in) |
Height |
1,165 mm (45.87 in) |
Track front |
1,668 mm (65.67 in) |
Track rear |
1,624 mm (63,94 in) |
Turning circle |
11.5 m |
Weight (dry) |
1,379 kg (3.040,175 lbs) |
Weight/power |
2.15 kg/CV (4,74 lbs/CV) |
Weight Distribution |
41% (front) – 59% (rear) |
CAPACITIES |
|
Fuel |
80liters |
Trunk |
100 liters |
CONSUMPTION |
The vehicle is not yet offered for sale and is therefore not subject to Directive 1999/94/EC. The fuel consumption and emissions data is in the type approval stage |
###