กรมการศาสนา จัดประชุมคณะกรรมการพิจารณาจัดตั้งวัดคาทอลิกครั้งที่ 3/2565
วันที่ ๑๕ กันยายน256๕เวลา 13.30 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก ครั้งที่ ๓/256๕โดยมีนายชัยพล สุขเอี่ยม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติผู้แทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้แทนกรมที่ดินในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายสำรวย นักการเรียนรองอธิบดีกรมการศาสนา ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการศาสนา ในฐานะกรรมการและเลขานุการและผู้แทนสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 กระทรวงวัฒนธรรม และผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์(Zoom) วาระสำคัญเป็นการพิจารณาแบบคำขอให้รับรองวัดคาทอลิก(แบบ คท.๒) ตามที่มิซซังได้ยื่นต่อกรมการศาสนา ในฐานะสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาดำเนินการ
นายอิทธิพล กล่าวว่า ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. ๒๕๖๔ กำหนดในข้อ ๑๖ ว่า ภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่ระเบียบใช้บังคับ เมื่อปรากฏว่ามีวัดคาทอลิกอยู่ในวันก่อนวันที่ระเบียบบังคับใช้ และมิซซังโดยความเห็นชอบของสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ยื่นคำขอให้รับรองวัดคาทอลิกนั้น พร้อมด้วยข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งวัด ที่ดินที่ตั้งวัด รายชื่อบาทหลวงซึ่งจะไปประกอบศาสนกิจประจำ ณ วัดคาทอลิกนั้น และข้อมูลอื่นที่จำเป็นเกี่ยวกับการรับรอง วัดคาทอลิกให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอต่อคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก เพื่อพิจารณาคำขอให้รับรองวัดคาทอลิก และให้คณะกรรมการเสนอคำขอดังกล่าวพร้อมความเห็นประกอบไปยังรัฐมนตรี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารับรองวัดคาทอลิกต่อไป ทั้งนี้ มติที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอความเห็นของคณะกรรมการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรับรองวัดคาทอลิก จำนวน ๓๔ วัด โดยมอบกรมการศาสนาในฐานะฝ่ายเลขานุการดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
นายอิทธิพล กล่าวต่อว่าสำหรับการยื่นคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก ซึ่งระเบียบกำหนดให้ยื่นโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักกรมการศาสนาได้ดำเนินการพัฒนาระบบยื่นคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก (E-Service) ขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าว และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ภาคราชการมีระบบ Government e-Service มาใช้ยกระดับขีดความสามารถรัฐ ในการให้บริการประชาชนที่สะดวก รวดเร็ว เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด คล่องตัว ในการบริการประชาชนสร้างความเชื่อมั่นของภาคประชาชนต่อระบบE-Service ของภาครัฐ ซึ่งทำให้การยื่นคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นทั้งนี้กรมการศาสนาได้จัดอบรมการใช้งานให้แก่ผู้เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดเปิดใช้ระบบดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป.
###