TMA แถลงข่าวการจัดงาน “TMA Excellence Awards 2022” เฟ้นหา “สุดยอดองค์กรธุรกิจที่เป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ”เตรียมประกาศผล 3 รางวัลใหญ่ประจำปี 2565
สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มุ่งพัฒนาขีดความสามารถขององค์กรสมาชิก เพื่อร่วมผลักดันความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(Sasin School of Management)และ พันธมิตรแถลงข่าวการจัดงาน “TMA Excellence Awards 2022” เตรียมประกาศผล3รางวัลอันทรงเกียรตินำโดย รางวัลThailand Corporate Excellence Awards 2022รางวัลพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจำนวน 9สาขารางวัลพระราชทาน, รางวัลSMEs Excellence Awardsจำนวน 3 สาขารางวัลพระราชทานและ รางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2022จำนวน 5รางวัล โดยการประกาศรางวัลครั้งนี้เป็นการมุ่งเฟ้นหาสุดยอดองค์กรธุรกิจไทยที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการมุ่งผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ อันจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งนี้ งานประกาศผลรางวัล “TMA Excellence Awards 2022” จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้องคริสตัลฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก โดยมีฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและผู้บริหารองค์กรที่ได้รับการเสนอชื่อในแต่ละสาขารางวัลร่วมงานด้วย
นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร รองประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และประธานคณะอนุกรรมการโครงการ TMA Excellence Awardsกล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า TMA เล็งเห็นว่าภาคธุรกิจคือแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาประเทศและการเรียนรู้จากองค์กรที่ประสบความสำเร็จถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้ามีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ จึงได้จัดทำโครงการรางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards ขึ้น โดยจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 เพื่อเฟ้นหาองค์กรที่มีการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ เหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่นๆ ได้ศึกษาเรียนรู้และนำแนวทางมาพัฒนาบริหารจัดการองค์กรของตนเองให้ดียิ่งขึ้นซึ่งการดำเนินโครงการที่มีมาอย่างยาวนานครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า TMA เป็นสมาคมขององค์กรที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศ พร้อมกับเป็นการกำหนดเกณฑ์ที่สำคัญในการบ่งบอกหรือชี้วัดความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆโดยในโครงการนี้มีการมอบรางวัลทั้งสิ้น 3 รางวัล ได้แก่
- รางวัลพระราชทานThailand Corporate Excellence Awards (TCEX)จัดต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี โดยความร่วมมือระหว่างสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อเฟ้นหาองค์กรที่มีการบริหารจัดการที่เป็นเลิศเหมาะสมที่จะเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่นๆ ได้ศึกษาเรียนรู้และนำแนวทางมาพัฒนาบริหารจัดการองค์กรของตนเองให้ดียิ่งขึ้นปัจจุบันได้รับการยืนยันถึงความสำคัญด้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ มีกระบวนการที่โปร่งใส ได้รับการยอมรับและเชื่อถือ สร้างความภาคภูมิใจต่อองค์กร และเพิ่มคุณค่าในการดำเนินธุรกิจ
รางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2022 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 9 สาขารางวัล โดยแบ่งประเภทของสาขารางวัลออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ตามจำนวนรายได้รวมของปี พ.ศ. 2564ดังต่อไปนี้
- สาขารางวัลสำหรับองค์กรที่มีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท/ปี จำนวน 8 สาขา ได้แก่
- สาขาความเป็นเลิศด้านการบริหารทางการเงิน (Financial Management Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resource Management Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ (Innovation Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ (Leadership Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศด้านการตลาด (Marketing Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศด้านสินค้า/การบริการ (Product / Service Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Excellence)
- สาขาความเป็นเลิศในการพัฒนาการบริหารจัดการขององค์กร (Corporate Improvement Excellence)
- สาขารางวัลสำหรับองค์กรขนาดกลางที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท/ปี จำนวน 1 สาขา ได้แก่สาขาความเป็นเลิศในการบริหารจัดการโดยรวม (CorporateManagement Excellence)
ในส่วนของขั้นตอนการคัดเลือกนั้นคณะทำงานโครงการฯได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงขององค์กรที่มีรายได้สูงสุด 1,000 องค์กรในประเทศไทยพัฒนารูปแบบให้มีการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพมากยิ่งขึ้นในแต่ละปี เพื่อเจาะลึกพื้นฐานหลายๆ ด้านของแต่ละองค์กรที่มีความเป็นเลิศว่าควรมีคุณลักษณะอย่างไรและคุณลักษณะใดเป็นสิ่งที่ผู้บริหารให้ความสำคัญมากที่สุดโดยนำข้อมูลการบริหารจัดการด้านต่างๆจากโครงการมาถอดรหัสจัดระบบเป็นองค์ความรู้และวิเคราะห์ปัจจัยสู่ความสำเร็จที่ทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจนเป็นที่ยอมรับของภาคธุรกิจ
- รางวัลพระราชทาน SMEs Excellence Awardsจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12เพื่อเชิดชูองค์กรและ SMEs ที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการในสาขาต่างๆ มอบให้แก่องค์กรต้นแบบในการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการถือกำเนิดจากความสำเร็จของรางวัลThailand Corporate Excellence Awards(TCEX) จากการสนับสนุนของพันธมิตรธนาคารชั้นนำของประเทศและองค์กรขนาดใหญ่ (ที่เคยได้รับรางวัล TCEX)ในการช่วยนำพาองค์กรขนาดเล็กและกลางให้ดำเนินธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงเกิดเป็นรางวัล SMEs Excellence Awards โดยแบ่งประเภทรางวัลสำหรับ SMEs และองค์กรที่เสนอชื่อในแต่ละประเภทธุรกิจ ได้แก่
1) รางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
2) รางวัล SMEs Excellence Awards ดีเด่นระดับGold และSilver
โดยมีหลักเกณฑ์ในการประเมิน 7 หัวข้อประกอบไปด้วย
- ด้านความเป็นผู้นำ
- ด้านการบริหารจัดการบุคคล
- ด้านการบริหารการเงิน
- ด้านการบริหารการตลาด
- ด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือกระบวนการในการทำการค้าปลีกหรือค้าส่ง
- ด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
- ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือความรับผิดชอบต่อสังคม
- และล่าสุดกับรางวัลThailand Digital Excellence Awardsรางวัลแห่งความเป็นเลิศทางด้านการบริหารจัดการดิจิทัล จำนวน 5รางวัล ได้แก่ รางวัล Business Model Innovation, รางวัล Culture & Talent, รางวัลBionic Company, รางวัลTech Innovation & AIและรางวัล Optimized Operationsมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการดิจิทัลขององค์กรในประเทศไทย โดยตั้งแต่ปี 2563 ได้มีการนำเครื่องมือประเมินของ BCG หรือที่เรียกว่า Digital Acceleration Index (DAI) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดความสามารถในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีภายในองค์กร ซึ่งครอบคลุม6 ฟังก์ชั่นหลัก เพื่อหาจุดแข็งจุดอ่อนขององค์กรและเพื่อการวางแผนในการพัฒนาองค์กรผ่านผลวิเคราะห์ที่ได้จากการประเมิน โดยการประเมินจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
1) แผนกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยดิจิทัลเทคโนโลยี
2) การใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในการทำงานหลักต่างๆ ขององค์กร เช่น ฝ่ายการตลาด ฝ่ายปฏิบัติการ และหน่วยงานสนับสนุนอื่นๆ
3) การพัฒนาการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีหรือการมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ในองค์กร
4) การใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการขับเคลื่อนองค์กร
5) การปรับเปลี่ยนแนวทางและวิธีการทำงานเพื่อสอดคล้องกับดิจิทัลเทคโนโลยี
6) การเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านข้อมูลและดิจิทัลเทคโนโลยี
7) การผสมผสานการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีให้เกิดเป็น Ecosystem
นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารองค์กรที่เคยได้รับรางวัลมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแนวคิดในการพัฒนาองค์กร เริ่มจากท่านแรก ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัดมหาชน ซึ่งเคยได้รับรางวัลThailand Corporate Excellence Awards สาขาความเป็นเลิศด้านการตลาดโดยเล่าถึงความสำเร็จของโครงการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ที่เกิดขึ้นจากวิกฤตCovid-19 ที่ทำให้ตระหนักว่าธุรกิจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตามโลกให้ทันจนเกิดการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวต่อไปได้โดยการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานที่ใช้ทรัพยากรน้อยลง แต่ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นโดยยึดพันธกิจหลักคือ Better Future for Allการประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงสามส่วนหลัก ได้แก่ Profit - ผลกำไร People -ประชาชน และ Planet - คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของโลก
สำหรับรางวัล SMEs Excellence Awards คุณวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ผู้ก่อตั้งศรีฟ้าเบเกอรี่ ได้เล่าถึงความสำเร็จจากจุดเริ่มต้นเพียงร้านเล็ก ๆในจังหวัดกาญจนบุรี สู่อาณาจักรเบเกอรี่ยอดขายกว่า 700 ล้านบาทด้วยคติประจำใจที่ว่า “ค่อย ๆ โต แต่โตทุกวัน” ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมาศรีฟ้าเองก็ได้รับผลกระทบหนักต้องปิดโรงงาน ความเสียหายกว่า 30 ล้านบาทแต่โควิดก็ช่วยให้ได้มีเวลาฉุกคิดถึงทิศทางองค์กร การขยายตลาดและการพัฒนาเทคโนโลยี จนทำให้ในช่วงสามปีที่ผ่านมาศรีฟ้ามีผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทุก ๆ ปี เป็นแง่คิดที่ทำให้เห็นว่า “ในดีมีเสียในเสียมีดี ทุกวิกฤติมีโอกาสให้เราเติบโตเสมอ”
และท่านสุดท้ายที่มาร่วมแบ่งประสบการณ์ คือ คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)เจ้าของรางวัล Thailand Digital Excellence Awards สาขา Thai Digital Champion for Tech Innovation&AI เผยว่า “กรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของภาครัฐในการช่วยเหลือประชาชนในทุกวิกฤติ ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบจาก Digital Disruption ที่เปรียบเป็นการปฎิวัติอุตสาหกรรมโลกครั้งที่ 4 และแนวโน้มของโลกธนาคารที่ดิจิทัลจะเป็นปัจจัยที่ 5 เข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ขณะที่ธุรกิจธนาคารจะมุ่งสู่ Open Banking มากขึ้น ธนาคารจึงได้พัฒนาแอปฯ Mobile Banking นั่นคือ Krungthai NEXT และพัฒนาแอปฯเป๋าตังค์ ซึ่งเป็นระบบเปิดที่มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ครอบคลุมบริการภาครัฐผ่าน G-Wallet บริการด้านการลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. หุ้นกู้ดิจิทัล Gold Wallet และบริการด้านสุขภาพผ่าน Health Wallet รวมถึงบริการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลบนแอปฯเป๋าตังค์ เพื่อตอบโจทย์โลกธุรกิจยุคใหม่ โดยนำระบบการเงินเข้าไปฝังตัวในปัจจัย4 ของมนุษย์ หรือในชีวิตประจำวันของคนไทย ตามแนวคิด Invisible Banking ทำให้ธนาคารสามารถเป็นกลไกของรัฐ และเสาหลักของเศรษฐกิจในกาช่วยเหลือประชาชน และดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธนาคาร “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”
###