วช. หนุนนวัตกรรมช่วยสังคมปลอดภัยด้วยแอพพลิเคชั่น BeBrave แก้ปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน

   วันที่ 18 สิงหาคม 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ ผู้ทรงคุณวุฒิจาก วช. ประกอบด้วย รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ประธานคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการฯ กลุ่มเรื่องสังคมไทยไร้ความรุนแรง ประจำปี 2566 รศ.ดร.สมถวิล ธนะโสภณ ผู้ตรวจสอบทางวิชาการฯ กลุ่มเรื่องสังคมไทยไร้ความรุนแรงประจำปี 2566 และ ศ.นพ.นิมิต เตชไกรชนะ ผู้ตรวจสอบทางวิชาการฯ กลุ่มเรื่องสังคมไทยไร้ความรุนแรงประจำปี 2566 ผ่านระบบ zoom meeting พร้อมด้วย กองบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม 2 กลุ่มสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อเยี่ยมชมผลสำเร็จของการดำเนินงาน โครงการวิจัย เรื่อง “การพัฒนาเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการกระทำความผิดทางเพศในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ที่ วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัย โดย รศ.ดร.สุณีย์ กัลยะจิตร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าแผนงานโครงการฯ ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

   รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ประธานคณะผู้ตรวจสอบทางวิชาการฯ วช. กล่าวว่า แอพพลิเคชั่น "BeBrave" ภายใต้การสนับสนุนจาก วช. การดำเนินโครงการวิจัย ที่มีความท้าทายและ มีเป้าหมายชัดเจน รวมถึงการส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้ ตลอดจนผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรม ไปสู่การใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการพัฒนา และสามารถแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการพัฒนาเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการกระทำความผิดทางเพศในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน และแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น ถือเป็นปัญหาทางสังคม ที่มีความท้าทายในการแก้ไข เพราะความรุนแรงมีหลายมิติ และมีความสลับซับซ้อน เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ความรุนแรงในโรงเรียน ความรุนแรงทางสื่อ ความรุนแรงบนท้องถนน และยังมีความรุนแรงอีกหลายรูปแบบ ที่เป็นภัยแฝงของสังคม ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับประชาชนทุกกลุ่มเพศ และทุกวัย ดังนั้นการลดความรุนแรงในสังคมไทยจึงถือเป็นโจทย์ท้าทายที่สำคัญสำหรับการวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ทางสังคมให้กับคนไทยได้อย่างมั่นคง และสามารถนำไปสู่การลดปัญหาความรุนแรงในสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน

   รศ.ดร.สุณีย์ กัลยะจิตร หัวหน้าแผนงานโครงการฯ เปิดเผยว่า ผลสำเร็จจากงานวิจัยนำไปสู่การต่อยอดนวัตกรรมการพัฒนาเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการกระทำความผิดทางเพศในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการนำแอปพลิเคชัน "BeBrave" การป้องกันการกระทำความผิดทางเพศในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งในส่วนของแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีสำหรับผู้กระทำความผิดและการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ ซึ่งในอนาคตเครื่องมือแอปพลิเคชัน BeBrave จะเชื่อมโยงกับองค์กรของรัฐโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อผนึกกำลังกันป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจร ด้วยแอพพลิเคชั่นแก้ปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศ BeBrave ระบบช่วยเหลือฉุกเฉินในยามคับขันของผู้ที่ต้องเป็นเหยื่อเพื่อขอความช่วยเหลือด่วน Emergency SOS ซึ่งเพียงแค่กดปุ่มเดียวระบบจะส่งข้อความฉุกเฉินและแชร์โลเคชั่นไปทาง SMS และส่งสัญญาณโทรศัพท์เรียกเข้ากลับไปยังผู้ขอความช่วยเหลือได้ภายใน 1 นาที นับเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงในสังคมช่วยให้สังคมปลอดภัยแก้ปัญหาการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้การสร้างความรู้ความเข้าใจครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปกครองเป็นแบบอย่างที่ดี สอนให้ลูกรู้จักปกป้องตัวเอง ให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องเพศอย่างเหมาะสม ส่วนที่โรงเรียนเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมสอดส่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและมีบทลงโทษที่ชัดเจน สำหรับในชุมชนนั้นชุมชนต้องช่วยกันสอดส่องดูแลแหล่งมั่วสุม ที่เปลี่ยว หามาตรการป้องกัน เช่น ติดตั้งกล้อง CCTV ไฟฟ้าส่องสว่าง เพื่อลดปัญหาการก่อเหตุอาชญากรรมทางเพศ การบูรณาการสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยป้องกันปัญหา ระหว่างครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ขณะเดียวกันข้อกฎหมายในปัจจุบันที่จะต้องสอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อยับยั้งการก่อเหตุคดีทางเพศในอนาคต

   ทั้งนี้ ได้มีการจัดการเสวนา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเรื่อง ดังนี้ กลุ่มที่ 1 เรื่อง การพัฒนาเครื่องมือป้องกันการกระทำความผิดทางเพศในครอบครัว และชุมชน กลุ่มที่ 2 เรื่อง การพัฒนาเครื่องมือป้องกันการกระทำความผิดทางเพศในโรงเรียน และ กลุ่มที่ 3 เรื่อง แนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในผู้กระทำผิดทางเพศ ซึ่งมีหน่วยงานในพื้นที่ นายสินธพ อินทรัตน์ นายก อบต.ท่าข้าม ตัวแทนจากโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา ตัวแทนจากโรงเรียนวิทยานุสรณ์ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อำเภอนาทวี ตัวแทนจาก สภ.หาดใหญ่ ตัวแทนจาก สภ.ป่าตอง ตัวแทนจาก สภ.ทุ่งสง และนักสังคมสงเคราะห์จังหวัดสงขลา เข้าร่วม ทั้งนี้ผู้ทรงคุณวุฒิจาก วช. คณะนักวิจัย และสื่อมวลชนลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เพื่อศึกษากรณีตัวอย่างของคดีที่เกี่ยวกับการกระทําชําเราเพื่อนำไปพัฒนาแอพพลิเคชั่น BeBrave ต่อไป

###