ซีพีแรม (ลาดกระบัง) ลุยปลูกป่าตามแนวชายฝั่งกว่า 20,000 ต้น หวังเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน และลดโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ลาดกระบัง) ขานรับนโยบายองค์กร และสหประชาชาติ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความมั่นคงและความยั่งยืนทางอาหาร ร่วมปลูกต้นไม้กว่า 20,000 ต้นในโครงการ CPRAM Forest best for life #ปลูกเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ปีที่ 4 ภายใต้โครงการ “CPRAM GREEN LIFE” #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
นายปิยโชค ปิยางสุ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสกล่าวว่า โครงการ CPRAM Forest best for life #ปลูกเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ปีที่ 4 ภายใต้โครงการ “CPRAM GREEN LIFE” #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน มุ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย เสริมสร้างความสมดุลระบบนิเวศที่สมบูรณ์ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลก ทั้งป่าบก และป่าชายเลน อีกทั้ง ประเทศไทยมีพันธะสัญญาในการลดก๊าซเรือนกระจกตามเจตจำนงที่แสดงต่ออนุสัญญา UNFCCC ในการลดก๊าซเรือนกระจก 20-25% ภายในปี 2030
โดยได้ร่วมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกจังหวัดสมุทรปราการรวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 16,000 ตารางเมตร (10ไร่)ในโครงการ CPRAM Forest best for life #ปลูกเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ปีที่ 4 ภายใต้โครงการ “CPRAM GREEN LIFE” #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน โดยมีคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงานบริษัท ซีพีแรม จำกัด ผนึกกำลังกับทุกภาคส่วน อาทิ กรมป่าไม้, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดสมุทรปราการ, สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2, สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง, ส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ, องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้าน ร่วมกันปลูกต้นไม้ เพื่อมุ่งหวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวป่าชายเลน เสริมสร้างระบบนิเวศให้สมดุล และสมบูรณ์เกิดการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อปัญหาเรือนกระจกของโลก และช่วยผลิตก๊าซออกซิเจนบริสุทธิ์ให้มนุษย์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ดำรงอยู่ได้อย่างสมดุล รวมถึงเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างคุณค่าทางสังคม และสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพชีวิต สู่ความยั่งยืนในทุกมิติณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก บางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
ป่าชายเลนมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ เพราะสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงกว่าป่าประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพราะว่า อัตราการสังเคราะห์แสงของป่าชายเลนที่สูง ช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยได้ โดยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ในรูปของเนื้อไม้ โดย Octavio Aburto นักชีววิทยาทางทะเลจากสถาบัน Scripps Institution of Oceanography ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมารับรองว่า “ป่าชายเลนเป็นตัวแทนของระบบนิเวศที่สำคัญมากในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
ทั้งนี้ ซีพีแรม ยังคงเดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนผืนแผ่นดินไทย ทั้งป่าบก และป่าชายเลน โดยเป็นการปลูกกระจายไปตามจังหวัดที่ตั้งบริษัท ซีพีแรม จำกัด ทั้ง 7 แห่ง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ อาทิ ลำพูน ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ชลบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพฯ เป็นต้น เพื่อร่วมสร้างคุณค่าให้กับชุมชน สังคม และประเทศชาติรอบด้านสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
###