กระทรวงดีอี–ดีป้า เปิดงาน Thailand Smart City Expo 2023 มหกรรมแสดงเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัลด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระดับนานาชาติ พร้อมมอบรางวัลเจ้าของผลงานด้านการประยุกต์ใช้ดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
22พฤศจิกายน2566,กรุงเทพมหานคร–กระทรวงดีอี-ดีป้าเปิดงาน ThailandSmartCityExpo2023มหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระดับนานาชาติ โดยได้รับเกียรติจาก
“รองนายกฯ ภูมิธรรม” เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมมอบรางวัลเจ้าของผลงานด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในโครงการประกวดระบบบริการเมืองอัจฉริยะดีเด่น ประจำปี 2566และประกาศรายชื่อผลิตภัณฑ์ดิจิทัลสัญชาติไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ dSURE
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Thailand Smart City Expo 2023 ภายใต้แนวคิด ASEAN Convergence ที่จัดโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และ บริษัทเอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์จำกัด พร้อมร่วมพิธีมอบรางวัลเจ้าของผลงานด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในโครงการประกวดระบบบริการเมืองอัจฉริยะดีเด่น ประจำปี 2566(Smart City Solutions Awards2023) และพิธีประกาศรายชื่อผลิตภัณฑ์ดิจิทัลสัญชาติไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ dSURE โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุม และนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บนายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์ และ นายนิติ เมฆหมอก นายกสมาคมไทยไอโอที ร่วมในพิธี
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า แผนงานขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะประเทศไทยได้รับการบรรจุอยู่ใน แผนการพัฒนา Mega Program พลิกโฉมประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบ ทางการแข่งขันของประเทศ(Thailand Competitiveness) เครื่องยนต์ที่ 1 ของนโยบายบริหารเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลไทยหรือ The Growth Engine of Thailand
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า เมืองอัจฉริยะประเทศไทยเกิดจากการบูรณาการการทำงานของจังหวัดหรือท้องถิ่นและภาคเอกชนโดยเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้และมีการจัดทำแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (City Data Platform: CDP)เพื่อรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบริหารจัดการ และจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการทำงานตอบโจทย์ 7 Smarts ประกอบด้วย สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ การดำรงชีวิตอัจฉริยะ พลเมืองอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ เศรษฐกิจอัจฉริยะ
การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ ซึ่งการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด ความยั่งยืน พร้อมลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างอัตลักษณ์ของตนเอง โดยปัจจุบันประเทศไทยมีเมืองอัจฉริยะทั้งสิ้น 36 เมืองใน 25 จังหวัด
“พร้อมกันนี้ กระทรวงดีอี โดย ดีป้า ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พัฒนานโยบายกระตุ้นการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในพื้นที่เมืองอัจฉริยะผ่านมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดถึง 100% ของเงินลงทุนด้านดิจิทัล (จากเดิม 50%) ระยะเวลาสูงสุด 3 ปี เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่ขึ้นทะเบียนใน‘บัญชีบริการดิจิทัล’ เพื่ออำนวยความสะดวกให้เมืองสามารถเลือกสินค้าและบริการด้านดิจิทัลที่มีคุณภาพในราคา ที่เป็นธรรมให้เหมาะสมกับบริบทของตนเอง โดยหน่วยงานภาครัฐสามารถเลือกใช้สินค้าและบริการในบัญชีบริการดิจิทัลได้ด้วยระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างกรณีพิเศษ”รัฐมนตรีดีอี กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพลกล่าวว่า ThailandSmartCityExpo2023 หรือมหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระดับนานาชาติ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมโครงการพัฒนาเมืองในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมือง การประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติโดยผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่จะเกิดการต่อยอดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการพัฒนาเมือง
“สำหรับโครงการประกวดระบบบริการเมืองอัจฉริยะดีเด่น ประจำปี 2566(Smart City Solutions Awards 2023)คือโครงการส่งเสริมให้เกิดตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งผลงานนั้น ๆ ต้องดำเนินการมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน โดยรางวัลที่มอบให้กับหน่วยงานเจ้าของผลงานถือเป็นการเชิดชูเกียรติและส่งเสริมขวัญกำลังใจ พร้อมกันนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้ให้ผู้นำเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นถึงความสำคัญ รับรู้ และเข้าใจประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้บริหารจัดการและให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ขณะเดียวกันประชาชนได้ทราบและเข้าใจแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันและแนวโน้มการบริหารจัดการเมืองในอนาคต” ผู้อำนวยการใหญ่ดีป้า กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการประกาศรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ dSURE (Digital Sure) จำนวน 4 ผลิตภัณฑ์จาก 3 ผู้ประกอบการสัญชาติไทย ซึ่งได้รับ dSUREประเภท dSURE1 ดาว หรือตราสัญลักษณ์สำหรับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ได้รับการรับรองคุณภาพด้านความปลอดภัยในการใช้งาน (Safety)
ผู้สนใจสามารถร่วมงาน ThailandSmartCity2023 งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้าน เมืองอัจฉริยะระดับนานาชาติได้ถึง วันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ณฮอลล์ 3-4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.thailandsmartcityexpo.com
###