การแสดงความกตัญญูกตเวที ผ่านรูปแบบ Art Exhibition “ชูเพชร” ของครูปัญญา เพ็ชรชู 5 -27 Oct. 2024 at Whispering Garden Café SampranNakhonprathom

 

Panya’s Cafe

ร้านกาแฟของครูปัญญา

จิบกาแฟ แลงานศิลป์

Art & Café

 

 

ความงามแห่งศิลปะ คือ เรียนรู้ชีวิตว่าจริงๆ

ศิลปะสอนมากกว่าที่มองเห็นความงาม

ศิลปะคือความงามแห่งการดำเนินชีวิต

ปัญญา เพ็ชรชู  ครูเพาะช่าง

 

  • หลักการและเหตุผล

   ครูเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของศิษย์ บทบาทของครูผู้สอนนั้นถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ของลูกศิษย์ ไม่เพียงแต่ทางด้านวิชาการที่จำเป็น ด้านจิตวิญญาณ ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต ครูเป็นผู้มีอิทธิพล และมีผลต่อความสำเร็จของลูกศิษย์โดยตรง เมื่อความสำคัญของครูมีมากมายเช่นนั้น ครูและบทบาทของครูที่เป็นตัวอย่าง จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเป็นต้นแบบ แม่แบบ แม่พิมพ์ ให้กับคนรุ่นต่อๆ มา

   ศิษย์เพาะช่างจึงมีการดำริถึงการรำลึกถึง และการแสดงมุทิตาจิต ต่อครูผู้ให้ผู้สร้างสรรค์ศิษย์ และผู้สร้างทรัพยากรบุคคล ที่มีคุณค่าแก่สังคม งานรำลึก และ โครงการชูเพ็ชร จึงเกิดขึ้น เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูครูผู้ให้แก่ศิษย์ ซึ่งจะเป็นตัวอย่างแก่สังคมปัจจุบัน ที่ต้องการเห็นตัวอย่างครูต้นแบบของผู้ให้อย่างชัดเจน

   ครูปัญญา เพ็ชรชู (ศาสตรเมธีปัญญา เพ็ชรชูท่านเป็นครูศิลปะประจำสาขาจิตรกรรมสากล คณะวิชาวิจิตรศิลป์โรงเรียนเพาะช่างครูผู้มีความเชี่ยวชาญทางด้านการวาดภาพเหมือนบุคคลด้วยเทคนิคสีชอล์คสีน้ำดรออิ้งจากผลงานการวาดภาพผู้บัญชาการผู้อำนวยการและผู้บริหารของโรงเรียนเพาะช่างทุกพระองค์ทุกท่านนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๕๖ซึ่งภาพผลงานเขียนโดย ครูปัญญารวมทั้งพระบรมสาทิสลักษณ์ล้นเกล้ารัชกาลที่๖พระผู้สถาปนาโรงเรียนเพาะช่างขึ้นตามกระแสพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๕และพระบรมสาทิสลักษณ์ในราชวงศ์จักรี

   ครูปัญญาเพ็ชรชูเกิดที่จ.สมุทรสาครความสนใจในศิลปะเริ่มต้นขึ้นเมื่อครั้งเรียนมัธยมเนื่องจาก มีโอกาสเรียนกับ ดำรงเล็กสวาสดิ์ ครูสอนศิลปะแห่งโรงเรียนวัดธรรมจริยาภิรมย์อ.บ้านแพ้วจ.สมุทรสาครซึ่งเคยเป็นศิษย์เก่าเพาะช่างและส่วนหนึ่งมีความประทับใจในความสวยงามของลายดอกกุหลาบที่พิมพ์อยู่ บนจานชามที่บ้านจนทำให้อยากวาดภาพทำให้ในเวลาต่อมาตัดสินใจศึกษาต่อทางด้านศิลปะที่โรงเรียนเพาะช่างและวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตรกระทั่งสอบบรรจุเป็นอาจารย์ที่รั้วเพาะช่างในปีพ.ศ.2515

   ตลอดชีวิตของการเป็นศิลปินและอาจารย์สอนศิลปะที่รั้วเพาะตั้งแต่เริ่มบรรจุกระทั่งเกษียณอายุราชการเป็นเวลาเกือบ40 ปี ชื่อของครูปัญญาจะเป็นที่กล่าวถึงในแง่ของการเป็นครูผู้ทุ่มเทและมีความเมตตากับลูกศิษย์โดยเฉพาะการช่วยเหลือลูกศิษย์ที่มีฐานะยากจนเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเรียนศิลปะและทำงานศิลปะต่อไปได้ครูปัญญามักจะเจียดรายได้ส่วนหนึ่งของตัวเองมาช่วยเหลืออีกทั้งความเป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยนใช้ชีวิตสมถะเรียบง่ายทำให้เป็นที่เคารพรักของนักศึกษาทั่วไปแม้จะไม่เรียนศิลปะกับครูปัญญาเพ็ชรชู โดยตรง นอกจากนี้ในแง่ของการเป็นศิลปินครูปัญญายังมีชื่อเสียงในด้านการวาดภาพเหมือนบุคคลด้วยเทคนิคสีชอล์กโดยเบื้องต้นได้แรงบันดาลใจและศึกษาจากผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงในอดีตอาทิ จำรัสเกียรติก้อง,เฉลิมนาคีรักษ์ฯลฯ

   ตัวอย่างผลงานชิ้นสำคัญของครูปัญญาอาทิพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ในหนังสือวชิราวุธานุสรณ์สาร,ภาพเหมือนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ญาโณทโย) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่15 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งขณะนี้ภาพชิ้นนี้ติดประดับไว้ ณวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, ภาพเหมือนเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ,พระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระสังฆราช 19 พระองค์ณวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร,รวมถึงเป็นผู้ได้รับมอบหมายจากทางวัดให้เขียนพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่5 รัชกาลที่6 รัชกาลที่7 รัชกาลที่9 ขณะทรงผนวช,ภาพเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยวอุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหารและอดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช,พระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกบนหนังสือที่ระลึก พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเล่มสีเหลืองซึ่งแจกโดยกรุงเทพมหานครฯลฯ

   และหากใครที่มีโอกาสเข้าไปในห้องโถงอาคารอำนวยการโรงเรียนเพาะช่างก็จะเห็นภาพเขียนสีชอล์กผู้บัญชาการผู้อำนวยการและผู้บริหารของโรงเรียนเพาะช่างทุกพระองค์และทุกคนนับแต่ที่โรงเรียนเพาะช่างก่อตั้งเมื่อปี2456 ซึ่งภาพเขียนหลายภาพเขียนโดยของครูปัญญารวมถึงพระบรมสาทิสลักษณ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่6 พระผู้สถาปนาโรงเรียนเพาะช่างขึ้นตามกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5

   ผลจากการอุทิศตนรับใช้สังคมทั้งทางด้านศิลปะและพระพุทธศาสนาทำให้ในปีพ.ศ.2545 มูลนิธิม.ล.ปิ่นมาลากุล มอบรางวัล "ศาสตรเมธี" สาขาศิลปกรรมศาสตร์ด้านจิตรกรรมศาสตร์ให้แก่ครูปัญญาเพ็ชรชู และต่อมาในปีพ.ศ.2556 ยังได้รับ “รางวัลต้นธารศิลป์ จากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติพระศาสนาพระมหากษัตริย์



ภาพเหมือนที่ผมชอบเขียนที่สุดคือภาพพระสงฆ์เพราะเขียนได้ง่ายและท่านนำจิตใจเรา

ไปสู่ความดีกิเลสลดลง"  ความรู้สึกส่วนหนึ่งของครูปัญญาที่มีต่อผลงานภาพเหมือนบุคคลของตนเอง

 

   จากความสำคัญที่กล่าวมาทั้งหมดศิษยานุศิตจึงมีความตั้งใจต่อการรำลึกถึงครูผู้มีคุณูปการต่อสังคม เพื่อดำรงความงดงามของครูผู้ให้ และเป็นตัวอย่างต่อศิษย์และครรุ่นหลังได้เรียนรู้ ถึงความหมายรูปแบบของครู ที่แท้จริง รวมทั้งการแสดงผลงานของ ครูปัญญา เพ็ชรชู และการสร้างสัญญาลักษณ์ ต่อการดำรง ความดี การรำลึกและการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูผู้ให้

   โครงการ ชูเพ็ชรจึงเกิดขึ้น เพื่อเชิดชูเพ็ชรเม็ดงามของวงการศิลปะ เพชรที่ต้องเชิดชูและยกย่อง สังคมได้ตระหนัก นึกถึงและเล่าขานเป็นประวัติศาสตร์ เป็นตัวอย่างแก่บุคคลรุ่นหลัง โดยเฉพาะเยาวชน รุ่นต่อๆไปที่ต้องการเห็นต้นแบบของความดี ความงาม และความจริง ที่มีอยู่ในบุคคลคนหนึ่ง ผู้ทำประโยชน์เพื่อสังคมจากงานศิลปะและความชำนาญที่มีอยู่ในตนเองและหาได้ยากยิ่ง

   ข้อมูลจากงานครูปัญญาเพ็ชรชู“ศาสตรเมธีปัญญาเพ็ชรชู" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่26 สิงหาคมพ.ศ.2559 และงานสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศล ระหว่างวันที่26 สิงหาคม - 1 กันยายนพ.ศ.2559 ณศาลา 10 วัดโสมนัสราชวรวิหาร 

 

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อรำลึก ยกย่อง เชิดชู บุคคลสำคัญ เพื่อเป็นให้สังคมได้เรียนรู้ ตัวอย่างของครู ผู้เป็นแบบอย่างแก่ศิษย์ และสังคม
  1. เพื่อเรียนรู้ผลงาน ชีวิตของครู ผู้เพาะช่าง ผู้สร้างบุคลากรทางศิลปะ และช่าง
  1. เพื่อแสดงผลงานศิลปะที่สำคัญ อันเป็นประวัติที่ต้องจารึกและเผยแพร่ แก่สังคม

      4. เพื่อเป็นเวทีต่อการแสดงมุทิตาจิตแก่บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งวงการช่างและศิลปะ

 

กิจกรรมหลักๆในการดำเนินโครงการ“ชูเพชร”

แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ 

  1. มอบทุนการศึกษาและอาหารกลางวัน แก่นักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
  2. Exhibition งานนิทรรศการภาพเขียน และประวัติ ครูปัญญาเพ็ชรชู
  3. แจกหนังสือศาสตรเมธีปัญญา เพ็ชรชู มอบหนังสือแก่ครูผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ในโครงการรางวัลครูเจ้าฟ้า ครูผู้มีผลงานดีเด่น ครูผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตศิษย์ จากครูผู้ได้รับคัดเลือกจากทั่วประเทศ

 

วันเวลา และ สถานที่

วันเสาร์ที่ 5 -27 ตุลาคม 2567

ณ วิสเปอริ่ง การ์เด้น คาเฟ่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

Whispering Café Sampran, Nakhonprathom

 

Exhibition ประกอบด้วย

นิทรรศการ ชีวิต ประวัติ และผลงานภาพเขียนของ

ครูปัญญา เพ็ชรชู

 

กำหนดการ วันเปิดนิทรรศการ วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567

 

ภาคเช้า

9.30 น.               พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระพุทธมนต์, บังสุกุล

10.00 น.             “สนทนากัลยาณมิตร”

                          กับพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ

และพระอาจารย์สุรศักดิ์ สุรญาโณ

12.00 น.            รับประทานอาหารร่วมกัน

 

ภาคบ่าย

 

14.00-15.00 น.เขียนทราย ประวัติและผลงานครูปัญญา เพ็ชรชู

โดย ก้องเกียรติ กองจันดี

 

15.00-16.00 น.การแสดงดนตรีชุด “ชูเพ็ชรครูปัญญา เพ็ชรชู“

โดยวงจีวันแบนด์

 

16.00 น .           ประธานในพิธี คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร

และ คุณกมลรัตน์ เพ็ชรชู กล่าวเปิดงาน

                

นิทรรศการแสดงที่

Whispering Garden Land

สามพราน นครปฐม

ศิลปะแห่งความดี ความงาม ความจริง

 

บรรยากาศที่จะแสดงคือ เกิดขึ้นในโรงนาสวยงาม

ท่ามกลางธรรมชาติขนาดใหญ่ และทุกสิ่งอย่าง

จะเกิดขึ้นในโรงนา

ขนาดใหญ่นี้ แปลงเป็นเสมือนหนึ่ง ร้านกาแฟ

ที่ครูตั้งใจ เมื่อเกษียณ จะไปทำ…

 

ภาคผนวก

เขียนโดย

ดินป่า จีวัน

ลูกศิษย์ ครูปัญญา เพ็ชรชู

นักศึกษาคณะจิตรกรรมสากล

โรงเรียนเพาะช่าง รุ่นที่ 71

 

โครงการ (Project)

 “ชูเพชร ครูปัญญา เพ็ชรชู

   ได้ใช้หลักการปวารณาอุทิศตัวตามหลักของศีลธรรมและคุณธรรม กำหนดลงไปในกิจกรรม (activities) เคลื่อนไหวอย่างพิถีพิถัน ทุกขั้นตอนในยามโลกเข้าสู่ยุค “กลียุค”นี้ จำเป็นต้องกระตุ้นเตือนจิตสำนึก ของความเป็นผู้ให้ ดั่ง“ครูปัญญา เพ็ชรชู” ผู้เป็นครูของพวกเรา และเป็น ปูชนียบุคคลที่สังคมให้การยอมรับนับถือ

   กิจกรรม (activities) ครั้งนี้ จึงเป็นการเปิดกล่องเพชร ในความมืด แสงจากเหลี่ยมเพชรที่ครูของพวกเราได้เฝ้าเจียระไน ตัวเองอย่างถึงที่สุดนี้ จะเป็นบรรทัดฐาน เป็นตัวอย่าง เป็นแบบอย่างเป็นกำลังใจ แก่อนุชนรุ่นลูก หลาน เหลน ได้เดินตามเส้นทางอันประเสริฐนี้ พวกเขาจะเป็นครูของเด็กนักเรียนศิลปะ หรือครูของโลกใบนี้ ก็ไม่ไกลเกินไป

   และนี่คือเส้นทางของการพัฒนาจาก“คน” กลายเป็น “มนุษย์” ผู้มีใจสูงที่ได้สื่อแสดง จนประจักษ์อย่างหมดจด งดงามแล้ว ทั้งหมดอยู่ในชีวิตของครู ที่ชื่อ ปัญญา เพ็ชรชู

 

กิจกรรม (activities)

   กิจกรรม (activities) ในครั้งนี้จึงมิใช่การทำอีเว้นท์ จัดงานขายสินค้า ที่เราเห็นอยู่ดาษดื่นทั่วไป แต่กิจกรรมครั้งนี้มีอุดมการณ์ของความเป็นครู (พระคุณที่สาม) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นของมนุษย์ ถ้าสังคมขาดครู ต้นแบบที่ดีงาม โลกจะเกิดเภทภัยและปัญหา ร้ายแรง นานัปการ โกลาหล อลหม่าน อย่างแท้จริง

   นี่จึงเป็น Concept แนวคิดที่ประณีต ละเอียด รอบคอบ เสียสละ สร้างสรรค์ ประดิษฐ์สร้าง แตกช่อ ผลิดอก ผลผลิต พัฒนา ส่งต่อ จึงมิใช่การสร้างProduct สินค้าภาพเขียนมาแขวนเพื่อ Hard sale แต่กิจกรรมนี้เป็น Soft Power พลังแห่งความนุ่มนวล ลึกซึ้ง ดั่งสายลมกระซิบผ่านยอดไม้ (Whispering) จากอุดมการณ์ทัศนคติ การดำเนินชีวิต ทุ่มอุทิศที่ใช้เวลายาวนานเคี่ยวกรำ บีบบังคับกิเลส แห่งความเห็นแก่ตัวให้ออกไป และเหลือความเมตตา กรุณา  พัฒนาตัว จนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ครูก็ได้กลั่นกรองตัวเองจนเป็น อมตะ เพชร เรียบร้อย บริบูรณ์

 

Exhibition นิทรรศการแห่งความกตัญญู รู้คุณ

   Exhibition ครั้งนี้จะไม่ทำตาม Fashion หรือในรูปแบบที่คุ้นตา ทั่วๆไป นิทรรศการแห่งความกตัญญูกตเวทีนี้ จะไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับราคา จะไม่พบคำเท่าไหร่ ในงานแสดง แต่ประชาชน ตลอดจนสาธุชน จะได้พบกับความพิเศษสุดกับProcess กระบวนการผลิตเพชรแห่งชีวิต ของเด็กหนุ่มจากเมืองน้ำสมุทรสาคร ผู้เจียระไนตนเองจนกลายเป็นเพชรเม็ดงามแห่งเพาะช่าง และเป็นของขวัญให้แก่ชาวโลก

   ฉะนั้น กระบวนการ Process จึงเป็นขั้นเป็นตอน เป็นลำดับ จะไม่ใช่การลองผิดลองถูก แต่คือต้นแบบแม่พิมพ์ แบบแผน ที่มี วิวัฒนาการ มาแต่ไทย โบราณ สร้างชาติ แปลงเมือง แห่งความเป็นไทย ไม่เป็นทาส รุ่นสู่รุ่น เป็นวัฒนธรรมของศาสตร์และศิลป์ กลมกลึง กลมกลืน ด้วยความ เป็นศิลปะที่มี ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นแม่พิมพ์ ในการเพาะช่าง

 

ครูเพาะช่าง สร้างช่าง เพื่อสร้างชาติ

 ###