เอ็นไอเอ ฉลองครบรอบ 20 ปีรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ เชิดชูเกียรตินวัตกรไทย เสริมแรงหนุนขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ชาตินวัตกรรม

   กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จัดพิธีมอบรางวัลนวัตกรรมเนื่องใน ‘วันนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2567’ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งทรงมีพระอัจฉริยภาพยิ่งด้านนวัตกรรม และได้รับการขนานนามว่า ‘พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย’ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 20 ของการจัดประกวด ‘รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ’ ซึ่งเป็นรางวัล ที่เชิดชูเกียรตินวัตกรไทยผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อองค์กร สังคม และประเทศทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษานอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทยและรางวัลนวัตกรรมข้าวไทยซึ่งเป็นรางวัลนวัตกรรมที่ NIA ได้ร่วมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

   นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า “งานวันนวัตกรรมแห่งชาติ ถือเป็นงานสำคัญระดับประเทศที่NIA จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรมของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะ ‘พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย’ที่เปรียบเสมือน ‘ต้นแบบนวัตกร’ ของปวงชนชาวไทย จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ‘แกล้งดิน’ ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จังหวัดนราธิวาส ที่สร้างประโยชน์คุณูปการอย่างหาที่สุดมิได้โดยแนวพระราชดำริดังกล่าวเน้นการผสมผสานนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีควบคู่กับนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการจนได้วิธีที่เหมาะสมในการแก้ไขดินเปรี้ยว ซึ่งได้รับการยอมรับและเผยแพร่ไปปรับใช้ในระดับนานาชาติทั้งนี้กระทรวง อว.ให้ความสำคัญกับการนำ‘นวัตกรรม’เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะและความสามารถด้านนวัตกรรมของ ‘กำลังคน’ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตซึ่ง อว.มีแผนการสร้างและพัฒนากำลังคนที่ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่กำลังคนในภาคอุตสาหกรรม นักวิจัย รวมถึงการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรี-โท-เอก นอกจากนี้ ยังมีนโยบายด้านการวิจัยและนวัตกรรมที่มุ่งเน้น ‘วิจัย-นวัตกรรมดีตอบโจทย์ตรงความต้องการ’ เพื่อให้เกิดการนำนวัตกรรมไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศในประเด็นสำคัญ ได้แก่ Go Greenพอเพียงความยั่งยืนความเป็นกลางทางคาร์บอนพลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านการดำเนินงานในรูปแบบ ‘เอกชนนำ รัฐสนับสนุน’ ซึ่งจะใช้ความต้องการของบริษัทเอกชนผู้ใช้ประโยชน์เป็นตัวนำ (market-driven) ในการกำหนดทิศทางดำเนินงาน และให้หน่วยงานรัฐทั้งหน่วยงานวิจัยและมหาวิทยาลัยร่วมสนับสนุนสุดท้ายนี้ ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับ‘รางวัลนวัตกรรม’ทุกท่านผู้เป็น ‘นวัตกร’ และ ‘องค์กรนวัตกรรม’ ที่เหมาะสมได้รับรางวัลทรงเกียรติ และถือเป็น ‘ต้นแบบ’ ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวด้านนวัตกรรมในองค์กรทุกภาคส่วนของสังคมไทย และช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการริเริ่มสร้างสรรค์ให้เกิดนวัตกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยต่อไป”

   ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่าNIA ในฐานะ ‘ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม(Focal Conductor)มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น ‘ชาตินวัตกรรม’ที่พร้อมเติบโต และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยปีนี้ถือเป็นข่าวดีของวงการนวัตกรรมไทยที่ผลการจัดอันดับ‘ดัชนีนวัตกรรมโลก (GII2024)’ ของประเทศไทยขยับดีขึ้นมาอยู่อันดับ 41 (เดิมอันดับ 43)ถือว่าดีที่สุดในรอบ 10 ปีและติดอันดับ 1 โลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ด้านสัดส่วนการลงทุนวิจัยและนวัตกรรมต่อ GDP โดยภาคเอกชน(GERD financed by business)ซึ่งสะท้อนให้เห็นการลงทุนของภาคเอกชนภายใน ประเทศที่มุ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจด้วยการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง”

 

   ดร. กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดงาน‘วันนวัตกรรมแห่งชาติ’และ ‘พิธีมอบรางวัลนวัตกรรม’ ที่NIA ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548ถือเป็นกลไกหนึ่งที่จะสร้างความตระหนัก และกระตุ้นให้เกิดการคิดค้น พัฒนา และต่อยอดนวัตกรรมของคนไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเป็นเวทีในการสื่อสารและสร้างการรับรู้ถึงพลังการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าด้วยนวัตกรรมจากทุกภาคส่วนโดยในปีนี้ถือว่ามีความพิเศษเนื่องจากเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปี ของการจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีของการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ‘นวัตกรรมของคนไทยมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด และสอดรับกับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว’ เห็นได้จากผลงานนวัตกรรมมีความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะนวัตกรรมด้านเศรษฐกิจที่ช่วยสร้างรายได้เท่านั้น แต่มีทั้งนวัตกรรมที่มุ่งช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นด้วย ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้คนไทยได้รับรู้และภาคภูมิใจในนวัตกรรมจากฝีมือคนไทยเหล่านี้ และกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวทางนวัตกรรมขึ้นในองค์กรทุกภาคส่วนของสังคมไทยโดยตลอด 20 ปี มีผลงานส่งเข้าประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติกว่า5,925 ผลงาน โดยมีผลงานที่ได้รับการเชิดชูเกียรติกว่า302 ผลงานที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมแก่ประเทศ เป็นมูลค่ากว่า 134,347 ล้านบาทหรือปีละกว่า 6,717ล้านบาท โดยมีผลงานนวัตกรรมเด่นที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติที่มีการพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่องและเป็นที่รู้จักกันดีในสังคม เช่น “เบเยอร์คูล ยูวี ชิลด์”สีสะท้อนความร้อนประหยัดพลังงาน ของบริษัท เบเยอร์ จำกัด / “น้ำมันรำข้าวคิง ชนิดโอรีซานอลสูง” ของบริษัท น้ำมันบริโภคไทย จำกัด/ “Dinsaw Mini” หุ่นยนต์เพื่อนเฝ้าผู้สูงอายุของบริษัท ซีที เอเซีย โรโบติกส์ จำกัด”

   “สำหรับพิธีมอบรางวัลนวัตกรรมในปีนี้ นอกจาก NIA จะมีการมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติซึ่งประกอบด้วย5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้านผู้สื่อสารนวัตกรรม ด้านองค์กรนวัตกรรม และรางวัลเกียรติยศซึ่งมีผลงานเข้าร่วม416 ผลงาน NIA ยังได้ร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยมอบรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทยโดยแบ่งเป็นระดับปริญญาตรี หรือ ปวส. และระดับมัธยมศึกษา หรือ ปวช. ซึ่งมีผลงานเข้าร่วม 409 ผลงานและร่วมกับมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์มอบ รางวัลนวัตกรรมข้าวไทยโดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีผลงานเข้าร่วม74 ผลงาน ซึ่งแต่ละผลงานที่ส่งเข้าร่วมประกวดล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่นไม่แพ้กันแสดงถึงศักยภาพด้านนวัตกรรมของคนไทยที่สามารถช่วยเป็นแรงผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ ‘ชาตินวัตกรรม’ได้อย่างเต็มภาคภูมิ”ดร. กริชผกา กล่าวเพิ่มเติม

###