วิธีทดสอบรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อค้นหารถยนต์คันโปรด

   รถยนต์นับเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าอย่างหนึ่ง และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน ดังนั้นการที่จะตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สักคัน นอกเหนือจากปัจจัยด้านงบประมาณ ราคา ยี่ห้อ คุณภาพ การออกแบบและการบริการหลังการขายแล้ว ผู้บริโภคควรไปที่โชว์รูมเพื่อทดลองขับรถยนต์รุ่นที่สนใจก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะการทดลองขับจะช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายที่สามารถตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง

   อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่ทราบถึงข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐานเมื่อถึงเวลาที่ต้องทดสอบขับรถ ฟอร์ดมีข้อแนะนำในการทดสอบขับรถยนต์เพื่อเฟ้นหารถยนต์คันโปรดที่เปี่ยมประสิทธิภาพ คุ้มค่าคุ้มราคาและยังตอบโจทย์ความต้องการสูงสุด ดังนี้

เตรียมตัวและรถยนต์ให้พร้อมก่อนเริ่มทดลองขับ

   ขั้นแรกให้ปรับตำแหน่งที่นั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่สบายที่สุด จากนั้นสังเกตว่าสามารถมองเห็นทัศนวิสัยโดยรวมได้ดีอยู่หรือไม่ แล้วปรับกระจกมองหลังและด้านข้างเพื่อให้มองเห็นถนนได้อย่างชัดเจน และลองเอื้อมมือใช้งานปุ่มคอนโทรลต่างๆ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ไม่ควรเอี้ยวตัวมากเกินไปเพื่อความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่

   ปรับตำแหน่งพวงมาลัยให้เหมาะสม พวงมาลัยไม่ควรบังหน้าปัด จากนั้นจึงสตาร์ทเครื่องโดยยังไม่เคลื่อนรถ ทั้งนี้เพื่อสังเกตแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ รถยนต์ที่ดีควรได้รับการออกแบบให้สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างเพียงพอ ต่อด้วยการตรวจเช็คความเงียบภายในห้องโดยสารโดยการลองเปิดและปิดหน้าต่างเพื่อฟังความแตกต่างของความดังเสียงจากภายนอกและภายในรถยนต์

เริ่มการทดสอบรถยนต์ด้วยความเร็วต่ำ

   หากขับรถในบริเวณที่มีแสงแดดจ้า ลองสังเกตการสะท้อนของวัสดุภายในรถว่าแสงสะท้อนแยงตาหรือไม่ จากนั้นลองเปิดแอร์เพื่อตรวจสอบความเร็วในการทำความเย็นของแอร์ว่าเย็นเร็วและทั่วถึงได้ดี จากนั้นจึงเริ่มทดสอบรถที่ความเร็วต่ำ ระหว่างนี้ให้สังเกตน้ำหนักของพวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้าควรมีน้ำหนักเบาเมื่อขับขี่ที่ความเร็วต่ำเพื่อมอบความสะดวกสบายและความฉับไวในการควบคุม จากนั้นจึงทดสอบความลึกของเบรคด้วยการขับช้าๆ สลับกับเหยียบเบรค

   ลองขับผ่านลูกระนาดในความเร็วต่ำเพื่อเช็คการดึงกลับของพวงมาลัย รวมถึงการลองปล่อยมือออกจากพวงมาลัยเล็กน้อย พวงมาลัยไม่ควรปัดไปมาจนเกินไปเมื่อวิ่งบนลูกระนาด รถที่ดีควรจะมีระบบที่ดึงพวงมาลัยกลับ ไม่ให้หมุนไปมาจนเกินไปเมื่อวิ่งบนถนนขรุขระ เพราะผู้ขับขี่จะต้องใช้การควบคุมที่สูงขึ้น ส่งผลให้ขับขี่ไม่สะดวกสบาย

   หากมีทางโค้งให้ทดสอบ ลองเช็ควงเลี้ยวของรถว่ามีระยะเท่าไรเพื่อดูว่าสามารถเลี้ยวได้อย่างสะดวก และลองเข้าโค้งด้วยความเร็วประมาณ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการแกว่งของรถ รถที่ดีต้องมีช่วงล่างแน่น ไม่เทไปข้างใดข้างหนึ่ง หลังจากนั้นเพิ่มความเร็วไปที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยลองหมุนพวงมาลัยเร็วๆ ให้เหมือนกับว่าต้องหลบสิ่งกีดขวางในระยะกระชั้นชิด เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น พวงมาลัยไฟฟ้าควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมรถ รวมถึงตรวจเช็คว่ารถมีการทรงตัวที่ดีเมื่อมีการหักหลบกะทันหันหรือไม่ เนื่องจากการทรงตัวที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำได้

การทดสอบรถยนต์เมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง

   ค่อยๆ เพิ่มความเร็วของรถขึ้นไปเรื่อยๆ ทดสอบฟังเสียงเกียร์ว่ามีอัตราการตอบสนองของเครื่องยนต์เป็นอย่างไร จากนั้นเพิ่มความเร็วให้ถึง 100กิโลเมตรต่อชั่วโมงและสังเกตความเร็วรอบของเครื่องยนต์ โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 2,000 รอบต่อนาที ในความเร็วระดับนี้ รอบยิ่งต่ำจะยิ่งประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น

   หากสามารถขับในระยะทางยาวได้ให้ทดสอบไล่ความเร็วจากระดับต่ำไปสูงโดยใช้การขับขี่แบบปกติ สังเกตดูว่าเกียร์หน่วงหรือไม่ เกียร์ควรจะส่งให้อัตราเร่งเป็นไปได้อย่างใจโดยไม่มีอาการกระชาก ในทางกลับกัน หากระบบเกียร์ดี แม้ว่าเครื่องยนต์จะเล็กแต่ก็สามารถมอบความสนุกในการขับขี่ได้

   ในช่วงการทดสอบความเร็วสูงนี้ ให้ลองฟังเสียงภายในห้องโดยสารเพื่อเปรียบเทียบขณะรถเคลื่อนตัวกับจอดนิ่งว่ามีเสียงเครื่องยนต์เข้ามาในห้องโดยสารหรือไม่ รวมถึงเช็คเสียงลมปะทะกับตัวรถว่าเข้ามาในห้องโดยสารมากเกินไปหรือไม่

ข้อควรรู้อื่นๆ

   ฟอร์ดยังขอแนะนำว่าไม่ควรเซ็นชื่อรับรถล่วงหน้าโดยเด็ดขาดหากยังไม่เห็นสภาพรถจริง การตรวจรับรถยนต์คันใหม่ควรทำในที่โล่ง มีแสงแดดเพียงพอเพื่อให้สามารถสังเกตสีรอบคันรถว่าสม่ำเสมอทั่วกัน นอกจากนั้นให้เช็คความเงาของสี การสะท้อนแสง และร่องรอยจากการขีดข่วน สังเกตความเรียบร้อยระหว่างรอยต่อแต่ละชิ้นว่ามีความสม่ำเสมอกันตลอดทั้งคัน ตรวจดูวัสดุของรถว่าแข็งแรงและทนทานหรือไม่ ลองปิดประตูเพื่อฟังเสียง เพราะเสียงที่หนักแน่นบ่งบอกถึงความแข็งแรงของวัสดุที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยในกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรืออาจหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ารถได้ผ่านการทดสอบและรับรองเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ

   สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กและต้องใช้งานคาร์ซีท ลองเปิดประตูรถเพื่อวัดความกว้างที่เหมาะสมในการติดตั้งรวมถึงการขึ้น-ลงรถอย่างสะดวก นอกจากนี้ ลองสำรวจความจุของรถและประเมินกับพฤติกรรมการใช้งานว่ามีความจุที่เหมาะสมหรือไม่ สำหรับผู้ที่เดินทางประจำ ควรพิจารณาความกว้างของประตูท้ายให้กว้างพอที่จะยกกระเป๋าเดินทางได้โดยสะดวก

   กรณีเลือกซื้อรถยนต์อเนกประสงค์หรือรถกระบะ ควรพิจารณาด้านความสูงของรถเพื่อรองรับการใช้งานกรณีเกิดน้ำท่วม สำหรับผู้ใช้รถกระบะควรพิจารณาเรื่องความสามารถในการลากจูงและบรรทุกน้ำหนักอย่างน้อย 1 ตันขึ้นไปเพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่สมบุกสมบันได้อย่างไม่ติดขัด

   ปิดท้ายด้วยการสำรวจภายในรถ พิจารณาวัสดุของเบาะนั่งและพวงมาลัยว่าเป็นแบบที่ชอบหรือไม่ เบาะที่นั่งที่ดีควรจะรองรับร่างกายได้ดี มีความแน่นและบังคับให้กระดูกสันหลังของผู้ขับขี่ตั้งตรงโดยอัตโนมัติเพื่อมอบความปลอดภัยมากขึ้น หมอนรองศีรษะไม่ควรเอียงไปด้านหลังเกินไปเพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายกับกระดูกต้นคอหากมีการชน สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ให้ลองนั่งเบาะหลัง เบาะที่ดีควรรองรับช่วงต้นขาได้ทั้งหมด เพราะสามารถเดินทางไกลได้โดยไม่รู้สึกปวดเมื่อย สำรวจห้องโดยสารว่ามีความสูงและความกว้างตรงตามความต้องการหรือไม่

   สำหรับผู้ที่มองหาความปลอดภัยและความสะดวกสบายอีกระดับ ฟอร์ดแนะนำให้มองหารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่สุดล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระห่างอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเปิด-ปิดไฟสูง ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ หรือระบบการสั่งงานด้วยเสียง เป็นต้น ด้วยวิธีการทดลองขับรถยนต์เบื้องต้นอันแสนง่ายดายและเกร็ดความรู้เหล่านี้ รับรองว่าคุณจะได้รถคันใหม่ที่ถูกใจและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแน่นอน