เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉม 2 ที่สุดแห่งความสง่า The new S-Class และ The Mercedes-Maybach S-Class สัญลักษณ์แห่งผู้นำ เติมเต็มประสบการณ์ แห่งการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

   บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว2สุดยอดรถยนต์หรูแห่งยุค อย่าง รถยนต์ระดับเรือธง The new S-Classที่สุดแห่งความสง่า มาพร้อมกับความหรูหรา ดีไซน์เหนือระดับความสะดวกสบายอันไร้ขีดจำกัด และระบบเทคโนโลยีควาปลอดภัย อันล้ำสมัยเติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่สำหรับผู้นำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และ The Mercedes-Maybach S-Classสุดยอดแห่งยนตรกรรมที่รวบรวมความเป็นที่สุดของสมรรถนะเหนือชั้นกับประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านไว้อย่างครบครันโดยรถยนต์ The S 350 d AMG Premiumนำเสนอในราคา 7.64 ล้านบาทและ The Mercedes-Maybach S-Class นำเสนอในราคา 17.44ล้านบาทผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 32แห่งทั่วประเทศ

   มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาThe S-Classถือเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดทั่วโลก และ สร้างยอดขายรวมกว่า300,000คันนับตั้งแต่ปีค.ศ.2013 และกว่า4,000,000 คันนับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัว The S-Class สู่สาธารณชนซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นยนตรกรรมหรูระดับเรือธงที่เป็นศูนย์รวมของสุดยอดดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน และเป็นจุดตั้งต้นสำหรับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์นั่งทุกระดับ โดยThe S-Class มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ดังนั้น The S-Class จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งผู้นำโดยแท้จริง”

   “และเพื่อเป็นการสานต่อปรัชญาในการนำเสนอ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ ให้แก่ลูกค้าทั้งในวันนี้ และ วันข้างหน้าในปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงได้พัฒนา The new S-Class ที่มาพร้อมกับมิติใหม่แห่งสุนทรียะในการขับขี่ ด้วยนวัตกรรมหลากหลายด้าน ทั้งความสะดวกสบายขณะขับขี่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance packageและความประหยัดน้ำมัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ตอกย้ำให้รถซาลูนหรูรุ่นดังกล่าวยกระดับสู่การเป็นรถยนต์ที่ “ดีที่สุด” ขึ้นไปอีกขั้นนอกจากนี้ เรายังได้นำเสนออีกหนึ่งสุดยอดยนตรกรรมเหนือระดับรุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybachที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination)และความสมบูรณ์แบบ (Perfection)ในทุกมิติได้เป็นอย่างดีมาให้ลูกค้ากลุ่มผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มธุรกิจฟลีทกับโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย เพื่อให้บริการเหล่าลูกค้าคนสำคัญ”มร.ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติม

   มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “รถยนต์2รุ่นที่เรานำมาเปิดตัวในวันนี้ ได้แก่รุ่น The S 350 d AMG Premium ยนตรกรรมหรูเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 6สูบเทอร์โบคู่ สุดยอดนวัตกรรมที่ทำให้เครื่องยนต์ทรงพลังมากขึ้น ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง และMercedes-Maybach S 560 Premium เครื่องยนต์เบนซินรหัส M 176แบบ V8เทอร์โบคู่ ที่มีความจุ 4.0ลิตร พร้อมแรงบิดสูงถึง 700 นิวตันเมตร ด้วย Inner-V turbochargersทำให้ได้ประสิทธิภาพอันทรงพลัง แต่เครื่องยนต์ไร้เสียงรบกวน ที่มาเปลี่ยนคำนิยามของความผ่อนคลายด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ตามมาตรฐานแบบเฟิร์สคลาส พร้อมระบบอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์แสนสบายตลอดการเดินทางของคุณ"

   “โดยรถยนต์ทั้ง2 รุ่นนี้ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติอัจฉริยะมากมายซึ่งส่งผลให้สมาชิกลำดับล่าสุดของรถยนต์ตระกูล The S-Classและ Mercedes-Maybachถือเป็นอีกขั้นของการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ขับขี่กึ่งอัตโนมัติยกตัวอย่างเช่น ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ระบบช่วยนำรถเข้า-ออก จากที่จอดอัตโนมัติ ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) หรือระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า (Evasive Steering Assist)เป็นต้น” มร.ฟรังค์ กล่าวปิดท้าย

 

The new S-Class

 

   ดีไซน์ภายนอกของ The S 350 d AMG Premium หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LEDพร้อมไฟdaytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ไฟท้ายแบบ LEDพร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMGแบบ Multi-spokeขนาด 20นิ้ว

   MULTIBEAM LED คือเทคโนโลยีชั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการควบคุมหลอดไฟแบบ LEDจำนวน 84หลอด ให้ปรับระดับ ความสว่างอย่างเป็นอิสระจากกัน โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและคำนวณระดับ ความสว่างอัตโนมัติ และตอบสนองความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ที่สำคัญคือความปลอดภัยในขณะมีรถสวนทาง ด้วยระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS – Intelligent Light System) ปรับเปลี่ยนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์การขับขี่และรูปแบบของถนน ระบบ ALS – Active Light Systemปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ระบบ Cornering Lightเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง และระบบ Adaptive Highbeam Assist Plusปรับไฟสูงอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถยนต์ที่วิ่งอยู่ในเลนตรงข้าม

   นอกจากนี้ MULTIBEAM LEDยังตรวจจับทางโค้ง มุมอับสายตาได้ในระยะที่ไกลมากกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี ULTRA RANGE ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง650 เมตรโดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่วิ่งสวนทางมา

   ดีไซน์ภายใน รวมถึงบริเวณห้องโดยสารของ The new S-Class สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 6 แบบ เพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายตลอดการเดินทาง พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม อย่าง เบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังหุ้มหนัง Exclusive nappa ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และฟังก์ชั่นอุ่นที่นั่งและระบายอากาศ ด้านบนของคอนโซลหน้าและส่วนกลางของแผงประตูหุ้มด้วยหนังnappa ที่วางแขนบริเวณคอนโซลกลางด้านหน้าและด้านหลังหุ้มด้วยหนัง nappaผ้าหลังคาและแผงบังแดดด้านหน้า หุ้มด้วย DINAMICA microfibre ที่รองขาแบบปรับระดับ พร้อมที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลังฝั่งซ้าย รวมถึงเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าที่สามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าเพิ่มขึ้นอีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7ซม. เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณห้องโดยสารด้านหลังให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

   สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย ภายในห้องโดยสารของ The S 350 d AMG Premium  มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECTระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่ บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display)ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONICแบบ 4-ZONEฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบ COMAND Onlineพร้อมรีโมทควบคุมสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบแผนที่นำทาง (Navigation system) ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC)เฉพาะภาษาอังกฤษ เครื่องเล่น Blu-rayสำหรับที่นั่งด้านหลัง ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Autoระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging)สำหรับที่นั่งด้านหน้า ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpadระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®surround sound systemระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล2ตำแหน่ง

 

The Mercedes-Maybach S-Class

 

   ดีไซน์ภายนอก อันหรูหราสง่างาม โดยการคงไว้ซึ่งการออกแบบบริเวณด้านหน้าให้ยังคงความหรูหราแบบ The new S-Classเอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บนฝากระโปรงลาย3แถบเสริมโครเมียม ฝากระโปรงหน้าที่ยาว พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า กระจกหน้าต่างสีเขียว กรองแสงรอบคัน พร้อมกระจกนิรภัยด้านหลัง, ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LEDพร้อมฟังก์ชั่น Active Light System,ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก, ล้ออัลลอยแบบforged ขนาด  20นิ้ว พร้อมยางรถยนต์แบบ Run-flatและหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน MAGIC SKY CONTROL, ระบบช่วงล่างแบบ MAGIC BODY CONTROL พร้อมปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วยโลโก้“Maybach” บนฝากระโปรงหลังโดย Mercedes-Maybachมาพร้อมกับความยาวตัวรถประมาณ 5,462มม. (S-Classยาว 5,271มม.) ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

   สำหรับ ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นการผสมผสานความหรูหรา ความนุ่มสบายขณะขับขี่ และ ความกว้างขวาง เข้าไว้ด้วยกัน โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง designo Exclusive semi-aniline,ด้านบนของคอนโซลหน้า และส่วนกลางของแผงประตูหุ้มหนัง nappa,ผ้าหลังคาและแผงบังแดดหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre,นาฬิกา IWCแบบอนาล็อก, พวงมาลัยนิรภัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3ก้าน หุ้มหนังสลับลายไม้ พร้อมสัญลักษณ์ MAYBACHและปุ่มควบคุมแบบ Touch Control,ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบ Apple Carplay™ & Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังและระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® high-end 3D surround sound system

   ห้องโดยสารภายใน มาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังริมหน้าต่าง แบบ climatisedที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นอุ่นที่นั่งและระบายอากาศ พร้อมทั้งสามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ โดยเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าได้มากกว่าปกติถึง 4 เซนติเมตร และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 เซนติเมตร เบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังแบบ multi-contourที่มาพร้อมระบบที่นั่งแบบ First Classและโต๊ะทำงานแบบพับได้ รวมถึง การเพิ่มความสบายตลอดการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชั่นนวด ENERGIZING6 รูปแบบ ที่พร้อมเพิ่มความสบายในการพักผ่อนด้วยที่รองขาปรับระดับ สำหรับผู้โดยสารด้านหลังซ้าย-ขวา,ตู้เย็นภายในรถยนต์บริเวณที่นั่งด้านหลัง,ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร,ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONICแบบ 4-Zone รวมถึงการช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี

   เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ของ Mercedes-Maybachได้ถูกออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสูงสุดเช่นเดียวกับรถยนต์ตระกูล The new S-Classพร้อมเพิ่มเติมระบบช่วยการมองเห็นยามค่ำคืน (Night View Assist Plus) และสัญญาณป้องกันการโจรกรรม พร้อมระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ

   The S 350 d AMG Premium และMercedes-Maybach S 560 Premium มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยสูงสุดมากมาย สำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน อาทิ

  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUSด้วยการทำงานของเรดาร์ที่หากตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกระพริบฉุกเฉินจะกระพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง หลังจากนั้น ระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรกจะล็อคล้อทั้งสี่ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณคอ หากมีการชนเกิดขึ้น
  • PRE-SAFE® Impulse Sideอีกหนึ่งความอัจฉริยะของระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยระบบจะตรวจจับรถยนต์ที่กำลังวิ่งเข้าด้านข้างตัวรถ ด้วยเรดาร์ที่ด้านซ้ายและขวา เมื่อพบว่ามีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ถุงลมที่อยู่ในพนักพิงด้านข้างจะพองออกเพื่อผลักให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าเอียงไปอยู่ส่วนตรงกลางห้องโดยสารแทน เพื่อปกป้องจากแรงกระแทกจากด้านข้างตัวรถ
  • ระบบ Active Emergency Stop Assistในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน เช่น คนขับหลับในหรือหมดสติ และระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยเลย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมาประคองพวงมาลัยรถ แต่ถ้ายังไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถอัตโนมัติในช่องจราจรนั้น พร้อมกับเปิดระบบไฟกระพริบฉุกเฉิน
  • ระบบ Evasive Steering Assistระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า โดยสัญญาณเรดาร์และกล้อง MPC ของรถยนต์จะช่วยตรวจจับคนและสิ่งของที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยระบบจะเตือนให้คุณตอบสนองและหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยตนเองเท่านั้น พร้อมช่วยส่งแรงบิดที่เหมาะสมในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระบบ Active Distance Assist DISTRONICระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50%ของแรงเบรกปกติเพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด ระบบสามารถลดความเร็วของรถลงจนกระทั่งหยุดนิ่งตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า และยังสามารถควบคุมรถให้ออกตัวตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า หากรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้าหยุดนิ่งเป็นเวลาไม่เกิน 30วินาที แล้วเคลื่อนที่ต่อไป
  • ระบบ Active Blind Spot Assistอีกหนึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร ระบบนี้จะทำงานตั้งแต่ความเร็วของรถที่ 12กม./ชม. เป็นต้นไป โดยจะมีไฟเตือนเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงปรากฏขึ้นที่กระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวา ทันทีที่ระบบสามารถตรวจจับรถที่เข้าใกล้ในระยะที่กำหนด หรือประมาณ 3เมตรจากด้านซ้ายด้านขวา หรือด้านหลังของรถ สัญลักษณ์เตือนดังกล่าวที่กระจกมองข้างนี้ จะกระพริบพร้อมกับมีเสียงเตือนเมื่อผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวด้านเดียวกับที่มีรถอยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณไม่ตอบสนอง ระบบจะเบรกรถด้านที่เสี่ยงต่อการชนโดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการช่วยให้รถคุณกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิม
  • ระบบ Active Lane Keeping Assistหากเรดาร์ตรวจพบความเสี่ยงในการชนกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ ระบบจะช่วยดึงรถเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติ ด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ ระบบนี้ยังสามารถตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาด้านข้าง จึงทำให้ผู้ขับขี่อุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นในการเปลี่ยนช่องจราจร โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งบนถนนใหญ่หรือทางด่วนที่มีหลายช่องทางจราจร
  • ระบบ Active Brake Assistและฟังก์ชัน Cross-Trafficเทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก โดยสัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPCจะตรวจจับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการชน และจะส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลังเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ในกรณีที่ระบบไม่สามารถหลบหลีกวัตถุด้านหน้าได้ทัน ระบบจะช่วยลดความเร็วลง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
  • ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง ซึ่งมีเฉพาะใน The new S-Classโดยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา จะแสดงภาพบริเวณรอบกันชนในจอแสดงผล รวมถึงภาพจากมุมสูง จึงช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางรอบคันรถ ทั้งนี้ระบบจะส่งสัญญาณ เตือนภัยทั้งภาพและเสียง ในขณะที่กำลังจอดรถด้วยความเร็วไม่เกิน 10กม./ชม.  โดยเป็นการประสานการทำงานของระบบ active steeringระบบ speed controlและระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ แม้ในที่จำกัดหรือในกรณีที่ต้องขยับรถหลายครั้ง พร้อมเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ  Drive Away Assistที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจจับความเสี่ยงต่อการชนในขณะที่เหยียบคันเร่งหรือเบรกสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง

   นอกจากนี้ รถยนต์ The S 350 d AMG Premium ยังมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC)พร้อมระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล ด้วยระบบที่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ในทุกสภาวะอย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยระบบนี้ ยังสามารถปรับให้เหมาะกับการขับขี่ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ในโหมดComfort และSport ซึ่งระบบกันสะเทือนจะถูกปรับการใช้งานให้สอดคล้องในแต่ละโหมด โดยสามารถปรับยกตัวรถได้สูงถึง 30 มม. เมื่อขับขี่บนถนนที่ขรุขระหรือมีหลุมบ่อ และระบบจะปรับตัวรถลง 20มม. โดยอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เพื่อเพิ่มการทรงตัวที่ดียิ่งขึ้น

  • The S 350 d AMG Premiumนำเสนอในราคา 7,640,000บาท
  • Mercedes-Maybach S 560 Premiumนำเสนอในราคา 17,440,000บาท