รอยัล เอนฟิลด์ เปิดตำนานรถมอเตอร์ไซค์จากสงครามโลกครั้งที่ 2 คลาสสิก 500 เพกาซัส รถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น

 

   ⦁ แรงบันดาลใจจากคำขวัญของรอยัล เอนฟิลด์ ‘Made Like a Gun’ และปรัชญาในการสร้าง รถมอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์ทนทาน
   ⦁ สรรเสริญตำนานรอยัล เอนฟิลด์ อาร์อี/ดับบลิวดี ฟลายอิ้ง ฟลี 125 (Royal Enfield RE/WD 125) หรือ ‘Flying Flea’ (ฟลายอิ้ง ฟลี) รถมอเตอร์ไซค์น้ำหนักเบาของอังกฤษที่ขนส่งผ่านร่มชูชีพระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
   ⦁ แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในสงคราม เป็นรถมอเตอร์ไซค์คันแรกที่ถูกปล่อยลงหลังแนวรบข้าศึก  ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ ‘เพกาซัส’ สร้างขึ้นจากความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกรมพลร่มของ สหราชอาณาจักร
   ⦁ รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส มีจำนวนจำกัดเพียง 90 คันในประเทศไทย
   ⦁ เปิดให้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ของรอยัล เอนฟิลด์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมถึง 31 กรกฎาคมนี้ ในราคา 199,000บาท

   รอยัล เอนฟิลด์แบรนด์รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสัญชาติอังกฤษที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานมากที่สุดในโลก เปิดตัวรอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส  (Royal Enfield Classic 500 Pegasus)รถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น โดย ‘เพกาซัส’ ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอาร์อี/ดับบลิวดี ฟลายอิ้ง ฟลี 125(RE/WD Flying Flea 125) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ฟลายอิ้ง ฟลี’ (Flying Flea)ที่ถูกสร้างขึ้นที่โรงงานของรอยัล เอนฟิลด์ ในเมืองเวสวู้ด สหราชอาณาจักร ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส สร้างขึ้นเพื่อสรรเสริญตำนานของฟลายอิ้ง ฟลีและประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรอยัล เอนฟิลด์พร้อมให้ผู้ขับขี่ชาวไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์แห่งประวัติศาสตร์นี้ในจำนวนจำกัดเพียง 90 คันจาก1,000 คันทั่วโลก โดยรอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัสจะเปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่  18 กรกฎาคมถึง 31 กรกฎาคม 2561ในราคา 199,000บาท

   ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 90 คันในประเทศไทย รอยัล เอนฟิลด์ได้ประกาศให้จองผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมถึง31 กรกฏาคม 2561 เท่านั้น ลูกค้าที่จองออนไลน์ก่อน มีสิทธิ์ได้รถมอเตอร์ไซค์ก่อน ข้อตกลงและเงื่อนไขตามหน้าเพจ ที่เว็บไซต์ของรอยัล เอนฟิลด์ที่
https://royalenfield.com/thai/motorcycles/classic-500-pegasus/register/ 

   รอยัล เอนฟิลด์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าภาคภูมิใจเกี่ยวกับการผลิตด้านการทหาร ตรงกับสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า‘Made Like a GunSince1901’โดยรอยัล เอนฟิลด์ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์สำหรับปืนใหญ่ รวมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระหว่างช่วงสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง และปัจจุบันยังผลิตรถมอเตอร์ไซค์ให้กองทัพอินเดียอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ รอยัล เอนฟิลด์ได้รับเลือกให้ทำการผลิตรถมอเตอร์ไซค์แก่กองทัพอังกฤษ และรัฐบาลของจักรวรรดิรัสเซียตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 โดยยังคงทำการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่คลาสสิก เรียบง่าย และดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยนั้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันซึ่งการผลิตที่โด่งดังมากที่สุดในสงครามโลกคือรถมอเตอร์ไซต์ ‘ฟลายอิ้ง ฟลี’ รถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กแบบ 2 สูบขนาด 125ซีซี ได้เข้าร่วมกับกองกำลังทางอากาศและเป็นส่วนหนึ่งของการรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้แก่วันดี-เดย์ และยุทธการที่อาร์เนม

   นายอรุณ โกปาล หัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ รอยัล เอนฟิลด์กล่าวว่า“เรื่องราวของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นฟลายอิ้ง ฟลี เป็นที่น่าจดจำและสร้างแรงบันดาลใจ เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ไม่เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์อื่นๆ สำหรับรอยัล เอนฟิลด์ รถมอเตอร์ไซค์สไตล์มิลิทารี่ถือเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์ของแบรนด์ สอดคล้องกับปรัชญาในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่คลาสสิก เรียบง่าย และทนทาน รถมอเตอร์ไซค์ของเรามีบทบาทสำคัญในสงครามโลกทั้งสองครั้ง และมีชื่อเสียงด้านความทนทาน แข็งแกร่งในทุกสภาวะ ซึ่งรอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส นับเป็นการย้อนกลับสู่ตำนานสงครามและปรัชญาในการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่อเนกประสงค์และทนทาน”

 

   รอยัล เอนฟิลด์ ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ให้แก่กองทัพอังกฤษที่ประจำการในฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และยังผลิตรถมอเตอร์ไซค์ให้แก่กองทัพของจักรวรรดิรัสเซีย โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์นับหมื่นคันเข้าร่วมสมรภูมิการรบ แต่มีเพียงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นฟลายอิ้ง ฟลีที่มีความเหมาะสมในการขนส่งผ่านร่มชูชีพไปยังหลังแนวข้าศึก โดยมียอดสั่งซื้อมากกว่า 4,000 คันระหว่างช่วงสงคราม สำหรับ ฟลายอิ้ง ฟลี นั้นสร้างขึ้นมาให้มีความเรียบง่าย ทนทาน และคล่องตัว เพื่อใช้เป็นรถมอเตอร์ไซค์สำหรับการรบแนวหน้า รถคันนี้เป็นเครื่องมือที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับทหารพลร่มระหว่างการรบ รถมอเตอร์ไซค์รุ่นฟลายอิ้ง ฟลี ถูกปล่อยลงพื้นด้วยร่มชูชีพพร้อมกับกรงเหล็กครอบตัวรถเพื่อป้องกันความเสียหาย บางคันก็ถูกขนส่งมากับเครื่องร่อนฮอร์ซ่า(HorsaAssault Glider)เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ถูกส่งถึงภาคพื้นดินแล้วได้ถูกใช้งานเพื่อการลาดตระเวน ติดต่อสื่อสาร รวมถึงนำพลทหารเข้าสู่สนามรบ

   ในเดือนกันยายนปี 1944 รถมอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์คันนี้ได้พิสูจน์สมรรถนะดีเยี่ยมในปฏิบัติการ มาร์เก็ต การ์เดน (Operation Market Garden)ปฏิบัติการทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยกองกำลังสัมพันธมิตรพยายามจบสงครามด้วยการพยายามเข้าสู่เยอรมันผ่านทางฮอลแลนด์ซึ่งในการรบที่อาร์เนม กองกำลังสัมพันธมิตรถูกโอบล้อมด้วยกองทัพรถถังเยอรมันถึง 7 วัน และประสบปัญหาวิทยุสื่อสารเสีย ผู้บัญชาการจึงต้องใช้พลทหารขี่รถมอเตอร์ไซค์ฟลายอิ้ง ฟลีในการกระจายข้อมูลการสื่อสารไปยังหน่วยต่างๆ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ฟลายอิ้ง ฟลีสามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมีความแข็งแกร่ง อเนกประสงค์ สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ เมื่อต้องเจอกับรั้วหนามหรือคูน้ำ พลทหารที่ขับขี่สามารถลงจากรถและยกรถข้ามอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดายฟลายอิ้ง ฟลี ยังมีบทบาทสำคัญในวันดี-เดย์ หรือยุทธการยกพลขึ้นบกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยในขณะที่กองกำลังสัมพันธมิตรกำลังต่อสู้ยึดชายหาดในนอร์มังดีทางตอนเหนือของฝรั่งเศส เพื่อต่อต้านการรุกคืบของเยอรมันมายังยุโรปตะวันตก ฟลายอิ้ง ฟลี นับร้อยคันได้ถูกปล่อยจากเครื่องบินลงสู่ชายหาดเพื่อสนับสนุนการรบ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่ได้ปฏิบัติงานในวันดี-เดย์ถึงกับชื่นชมรถมอเตอร์ไซค์ฟลายอิ้ง ฟลีว่าเป็น ‘บีชมาสเตอร์’ (Beachmaster)จากความสำเร็จในการปล่อยรถมอเตอร์ไซค์ลงสู่ภาคพื้นดิน

   และเพื่อเฉลิมฉลองและตำนานที่ของฟลายอิ้ง ฟลี รอยัลเอนฟิลด์ได้ร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกรมพลร่มของสหราชอาณาจักร ในการพัฒนารอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส โดย มาร์ค เวลส์ หัวหน้าด้าน กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมของรอยัล เอนฟิลด์ระดับโลก อธิบายเกี่ยวกับความร่วมมือว่า “เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร เราติดต่อพลร่มเมื่อประมาณ 18 เดือนที่แล้ว และบอกว่าเราอยากทำงานร่วมกันในโครงการนี้ ซึ่งความร่วมมือเป็นไปด้วยดี รอยัล เอนฟิดล์ คลาสสิก 500 เพกาซัสใหม่ อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และตำนาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ รอยัล เอนฟิลด์เท่านั้นสามารถทำได้ มีแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สไตล์มิลิทารี่มากมาย แต่มีเพียงรอยัล เอนฟิลด์เท่านั้นที่มี ฟลายอิ้ง ฟลี”

   รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัสทั้ง 1,000 คันมีตราโลโก้เพกาซัสติดอยู่ ซึ่งเป็นตราเครื่องหมายทางการของกรมพลร่มของสหราชอาณาจักร ประดับอยู่ที่ถังน้ำมันด้านข้างพร้อมระบุเลขซีเรียลนัมเบอร์โดยมีลวดลาย ‘Made Like a Gun’ ที่ฝากล่องแบตเตอรี่ ตราเครื่องหมายและข้อความเหล่านี้ เป็นการตกแต่งจริงของ ฟลายอิ้ง ฟลี ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส มีจำหน่ายใน2 เฉดสี ซึ่งเป็นสีเดียวกับรถมอเตอร์ไซค์ในช่วงสงครามโลกได้แก่สีน้ำตาลเซอร์วิสบราวน์ (Service Brown) และสีเขียวโอลีฟแดรบ (Olive Drab Green)

   นางสาวณฐพร จิรมหาโภคา ผู้จัดการรอยัล เอนฟิลด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทย เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตำนานแห่งประวัติศาสตร์ของแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ด้วยความที่คนไทยมีความหลงใหลในแบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ และชื่นชอบความคลาสสิกของมอเตอร์ไซค์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ เรายินดีที่จะนำ รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500เพกาซัส ทั้ง2 เฉดสีคือสีน้ำตาลเซอร์วิสบราวน์ (Service Brown) และสีเขียวโอลีฟแดรบ (Olive Drab Green)มามอบเป็นของขวัญให้แก่คนไทยในจำนวนจำกัดเพียง 90 คัน เพื่อให้ชาวไทยได้ร่วมเป็นเจ้าของมอเตอร์ไซค์ประวัติศาสตร์ที่มีเพียง 1,000 คันในโลกคันนี้ โดยจะเปิดให้ทุกท่านได้จองรถผ่านเว็บไซต์รอยัล เอนฟิลด์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมจนถึง 31 กรกฎาคมนี้เท่านั้นค่ะ”

   รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 เพกาซัส มาพร้อมกระเป๋าข้างสไตล์มิลิทารี่ทำจากผ้าแคนวาสและติดโลโก้ เพกาซัส รถทั้งคันตกแต่งตามสไตล์มิลิทารี่ ได้แก่ แฮนด์จับสีน้ำตาล สายรัดหนังพร้อมหัวทองเหลืองบนตัวกรองอากาศ ท่อไอเสีย ล้อ คันสตาร์ท แป้นเหยียบ และครอบไฟหน้าทั้งหมดในสีดำ สะท้อนสไตล์ย้อนยุคแบบสงครามโลกอย่างแท้จริงนอกจากนี้ ยังมีสินค้าและอุปกรณ์การขับขี่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานมอเตอร์ไซค์ช่วงสงครามโลกจำหน่ายที่รอยัล เอนฟิลด์ เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์ ทุกสาขา ทั้งเสื้อเชิ้ต  เสื้อยืด หมวก พินติดเสื้อ กระเป๋าและหมวกกันน็อค โดยเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับคอลเลคชั่นนี้ผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัด และติดตราสัญลักษณ์เพกาซัสที่สินค้าทุกชิ้น