2 กูรูการตลาดจากเวที J-MAT Award ครั้งที่ 27 แนะ 8 ข้อที่นักการตลาดรุ่นใหม่ต้องมี!

   จัดต่อเนื่องยาวนานมาเป็นปีที่ 27 แล้วกับโครงการประกวดแผนการตลาด  J-MAT Award โดยในปีนี้สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ น้ำตาลมิตรผล เปิดเวทีให้น้องๆ นิสิต-นักศึกษามาประชันแผนกลยุทธ์การตลาด ภายใต้คอนเซป “ความหวาน รสชาติที่ทำให้มีความสุข” เพื่อเฟ้นหานักการตลาดรุ่นใหม่ไฟแรงป้อนเข้าสู่วงการ และเพื่อสนับสนุนให้น้องๆ ต่อยอดความสำเร็จก้าวแรกสู่ก้าวต่อๆ ไป นี่คือ 8 คุณสมบัติที่ 2 กูรูการตลาดผู้คร่ำหวอดในวงการ นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และ นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงาน กลยุทธ์การตลาด กลุ่มงานการตลาด บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด แนะว่านักการตลาดรุ่นใหม่ต้องมี! 

(ซ้าย) นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์การตลาด กลุ่มงานการตลาด บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด และ (ขวา) นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย

 

   1. ความช่างสังเกต ต้องติดตามเทรนด์ รู้จักเก็บข้อมูลจากสถานการณ์และสิ่งรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายว่ากำลังสนใจเรื่องอะไร และนำมาวางกลยุทธ์การตลาดให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

   2. ความคิดสร้างสรรค์ นักการตลาดต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่และโดดเด่นจากสินค้าประเภทเดียวกันในตลาด ทำให้เป็นที่สังเกตและสนใจของตลาดและผู้บริโภค

   3. Be Bold, Be Single Minded ต้องรู้จักเลือกและโฟกัสสิ่งที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด หลายครั้งที่นักการตลาดหลงกับการใช้เครื่องมือและวิธีการสื่อสารที่หลากหลาย แต่ไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย อาจเป็นการเสียเวลาและเสียต้นทุนเกินความจำเป็น

   4. ความยืดหยุ่นและคล่องตัว ในโลกยุคดิจิทัล เราต้องปรับตัวพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต ที่อาจเป็นกับดักของการไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แบรนด์ที่เป็นผู้นำต้องขับเคลื่อนแบรนด์ ‘always one step ahead’ โดยเชื่อว่าทุกอย่างไม่มีทางตัน

   5. Brand Passion ต้องรักในแบรนด์ของตัวเอง และสร้างสรรค์ให้แบรนด์มีชีวิตอยู่เสมอ
“หลายครั้งเมื่อนักการตลาดทำกิจกรรมการตลาดไปสักระยะจะเริ่มรู้สึกเบื่อ อย่าเบื่อแบรนด์ตัวเอง และต้องทำให้เรื่องราวเดิมที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์เราให้มีชีวิต มีความสดใหม่อยู่เสมอ เปิดใจและปรับตัวเข้ากับ เทรนด์ใหม่ๆ โดยยังคงความเป็นตัวตนของแบรนด์ไว้ให้ได้ในเวลาเดียวกัน หรือที่เรียกว่า ‘same same but different’ เหมือนกับการแต่งตัว เรารู้ว่าเราแต่งสไตล์ไหน แม้จะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่สไตล์ความเป็นตัวเราก็ยังคงอยู่” นางสุพัตรา กล่าว

   6. การเปิดใจ นักการตลาดควรเปิดใจกว้างและเรียนรู้ตลอดเวลา รับฟังและทำความเข้าใจถึงความต้องการและความคิดเห็นของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยไม่ยึดติดกับมุมมองความคิดของตนหรือวิธีการที่เคยใช้ในอดีต เพื่อสร้างแผนการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

   7. ความอดทน ความสำเร็จในการทำงานด้านการตลาดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ ต้องอาศัยความอดทนและการ follow up หรือติดตามงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่ทุกแคมเปญจะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่อย่างน้อยเราจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น นำมาพัฒนาการทำงานอย่างต่อเนื่องจนไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

   8. ทีมเวิร์ค การทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยดึงจุดเด่นของผู้ร่วมงานแต่ละคนมาช่วยกันเสริมการทำงานในแต่ละจุด จะช่วยให้ทีมเข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากในทีมที่มีทั้งนักการตลาดรุ่นพี่มากประสบการณ์พร้อมที่จะเปิดใจและนักการตลาดรุ่นใหม่ที่มีความคิดสดใหม่พร้อมที่จะเรียนรู้ จะเป็นทีมเวิร์คที่ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันได้อย่างดี

   “เด็กรุ่นใหม่มีไอเดียที่น่าสนใจ หากได้รับการสนับสนุนด้านประสบการณ์ก็จะสามารถก้าวหน้าได้ยิ่งกว่าเดิม โดยนักการตลาดรุ่นพี่สามารถช่วยประเมินความเป็นไปได้ของแผนการตลาดและช่วยกำหนดกรอบทำงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในขณะที่นักการตลาดรุ่นใหม่ก็จะช่วยเสริมด้วยความคิดที่สดใหม่ จนเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ช่วยส่งเสริมกัน และผลักดันทีมไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน” นางสาวสิรินิจ กล่าว

นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์การตลาด กลุ่มงานการตลาด บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด และนางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย มอบรางวัลชนะเลิศ พร้อมทุนการศึกษาแก่น้องๆ ทีม sweeTEN จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

 

   หนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จจากทีมเวิร์ค คือ น้องๆ ทีม sweeTEN จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดครั้งนี้ ซึ่งร่วมแชร์ประสบการณ์ว่า “สิ่งสำคัญที่ผลักดันให้ทีมคว้ารางวัลชนะเลิศได้ คือ ‘ทีมเวิร์ค’ ตลอดระยะเวลาการสร้างสรรค์แผนการตลาดราว 3 เดือน พวกเราได้แลกเปลี่ยนความคิด เรียนรู้ที่จะเปิดรับความคิดแปลกใหม่ และเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อผสมผสานความคิดเหล่านั้นเข้ากับกลยุทธ์และมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน”

   โครงการประกวดแผนการตลาด J-MAT Award ครั้งที่ 27 ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษามูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 500,000 บาท ได้รับความสนใจจากน้องๆ นิสิต-นักศึกษาเป็นจำนวนมาก มีการส่งผลงานเข้าประกวดทั้งหมด 413 ทีม จาก 47 สถาบัน ทั้งนี้ ผลงานทั้งหมดที่ส่งเข้าประกวดล้วนแสดงถึงความสามารถของน้องๆ นักการตลาดรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน หากหมั่นพัฒนาทักษะด้านการตลาดอย่างสม่ำเสมอ จนมีคุณสมบัติของนักการตลาดที่ดีครบถ้วนแล้ว ความสำเร็จก็เป็นเรื่องไม่ไกลตัวจากนักการตลาดรุ่นใหม่เลย

 

น้องๆ นักศึกษานำเสนอแผนกลยุทธ์การตลาด ภายใต้หัวข้อ “ความหวาน รสชาติที่ทำให้มีความสุข”

 

บรรยากาศงาน “โครงการประกวดแผนการตลาด J-MAT Award ครั้งที่ 27” โดยบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด และ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย