เหล่าเทพศิลปะกราฟิตี จากย่านวินวูด เมืองไมอามี่ เยือนไทยแล้ว!

พบกับ Ruben Ubiera, Orgie (หรือที่รู้จักกันในนาม Le’ Creep) และ Golden สามเทพศิลปะกราฟิตี จากย่านวินวูด เมืองไมอามี่ เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย พวกเขาได้รับเชิญให้มาเยือนกรุงเทพเพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสุดเจ๋ง และพิเศษสุดสำหรับจัดการแสดงที่ Los Atico กับผลงานชิ้นใหม่ที่อยู่ ณ ชั้นบนร้าน คาลิ-เม็กซ์ บาร์ แอนด์ กริล, เม็กซิกันบาร์ ใจกลางสุขุมวิท ซอย 11

   Orgie เกิด และเติบโตมาในไมอามี่ เขาหลงใหลใฝ่ฝันในศิลปะกราฟิตีตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมต้น ด้วยความคิดที่มีความกบฎในตัวและชอบใช้ชีวิตอย่างน่าหวาดเสียวของเขา จึงเป็นแรงขับให้เขาสร้างผลงานศิลปะเจ๋ง ๆ จากความบ้าระห่ำส่วนตัว เขาก็ค่อย ๆ เริ่มบรรจงวาดภาพบนฝาผนังในย่านวินวูด ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยศิลปะที่มีชีวิตชีวา อีกทั้งร้านอาหาร โรงเบียร์ และสถานที่แฮงก์เอ้าท์ เมื่อผู้คนเริ่มมีความนิยมและเห็นคุณค่าของกงานราฟิตี สิ่งนี้จึงได้ก้าวขั้นขึ้นมาหนึ่งในงานศิลปะที่แตกต่างจากครั้งก่อน ซึ่งผู้คนมักจะมองว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ Orgie ก็เริ่มมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยการพูดแบบปากต่อปากจากผู้คนบนท้องถนนและตามโซเชียลมีเดีย และเขาก็ได้แจ้งเกิดจริง ๆ ก็เมื่อตอนที่เขาได้สร้างผลงานให้กับ Ludacris แรปเปอร์ชาวอเมริกัน ในช่วงงานแสดงนิทรรศการ Art Basel

   และนอกจากนั้นเขายังสร้างผลงานให้กับ Young Jeezy และ Fat Joe ซึ่งทั้งสองก็เป็นแรปเปอร์ชาวอเมริกันเหมือนกัน ความคิดของ Orgie ที่ว่า “สิ่งนี้แม้จะไม่ทำให้ผมไปเติบโตไปได้ แต่ผมก็ยังรักมัน” ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อตอนนี้เขากลายเป็นศิลปินที่ถูกถามหาตามตัวมากที่สุดในไมอามี่

Le’ Creep (Orgie) อธิบายเกี่ยวกับผลงานของเขาให้ Ludacris ฟัง ที่ Centro Storico เมืองไมอามี่ ระหว่างการจัดแสดงนิทรรศการ Art Basel

 

ผลงานศิลปะของ  Le’ Creep ที่สร้างให้ Young Jeezy ที่ Centro Storico เมืองไมอามี่ ระหว่างการจัดแสดงนิทรรศการ Art Basel

 

ลักษณะสไตล์ผลงานศิลปะที่เป็นตัวตนของ Le’ Creep

 

   Ruben Ubiera ถูกโหวตให้เป็นศิลปินสตรีทที่อาร์ตยอดเยี่ยมที่สุดในไมอามี่ ปี 2016 เขาเกิดในสาธารณรัฐโดมินิกัน และเริ่มวาดภาพเป็นก่อนที่เขาจะเขียนหนังสือได้ ด้วยความที่เขาหลงใหลในศิลปะมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงได้ศึกษาต่อด้านกราฟิกดีไซน์และนิเทศศิลป์ ซึ่งได้ทุนอนุเคราะห์การศึกษาจาก Fernando Botero หลังจากเขาทำงานมา12 ปี ในองค์กรด้านศิลปะในตำแหน่ง ผู้กำกับศิลป์ มาหลายที่ เขาและน้องสาวก็ตกงาน แต่แล้วเขาก็ยังจำคำพูดของแม่ซึ่งล่วงลับไปแล้วได้ดี ว่า “แม่เชื่อว่าเขาจะสามารถเป็นศิลปินได้” เขาจึงเริ่มหันมาวาดภาพบนฝาผนัง โดยภาพแรกที่วาดคือภาพของแม่เขาเอง เขาเป็นศิลปินที่มีสไตล์แบบนีโอ-ฟิเกอเรทีฟ ซึ่งมีลายเส้นที่แข็งแรง การวาดกราฟิตีให้แรงบันดาลใจเขาทั้งในทางเทคนิค สุนทรียภาพ จิตรกรรมฝาผนังในเมือง ศิลปะสื่อผสมต่าง ๆ ล้วนรังสรรค์เพื่อแก้ไขสิ่งประดิษฐ์และวัตถุต่าง ๆ ให้ดูดีขึ้น ด้วยงานจิตรกรรมและการวาดภาพของเขา ด้วยสไตล์ที่อิสระของเขาจึงออกมาในสไตล์ Postgraffism ซึ่งหมายถึงการผสมผสานกันระหว่างศิลปะกราฟิตีกับศิลปะแบบเหนือจริง

El Camino โดย Ruben Ubiera ที่ชายหาด Delray Beach

 

ชาวเม็กซิกัน โดย Ruben Ubiera ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดขึ้นใน ร้าน Mexican Cocina/ Tequila Bar

 

   Golden คู่ขางานของ Ruben Ubiera เขาคนนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับงานศิลปะใด ๆ มาก่อนที่จะมาทำงานร่วมกัน แต่ด้วยความกระตือรือร้นที่มากมายเมื่อเขาได้เห็น Ruben เพนต์งานตามผนังบนท้องถนน ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่หยุดถาม Ruben เลยว่ามีอะไรที่เขาช่วยได้ไหม และเมื่อ Ruben ได้ตัดสินใจที่ให้ Golden มาช่วยงาน Golden ก็ออกจากงานประจำทันที ถึงแม้ว่า Golden จะไม่เคยจับกระป๋องสเปรย์มาก่อนเลยในชีวิตนี้ แต่เขาก็ช่วย Ruben ได้ดี ในเรื่องการทำกราฟิกบนคอมพิวเตอร์ พวกเขาทั้งคู่เข้ากันได้อย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่สามารถแยกจากกันได้ เพราะเขาทั้งคู่คือแรงบันดาลใจให้แก่กันและกัน ด้วยสไตล์และเทคนิคที่แตกต่างกัน

ภาพวาดฝาผนังในย่านวินวูด สำหรับงานนิทรรศการ ArtBasel โดย Golden

 

ภาพวาดฝาผนัง ในซาเล็ม รัฐแมสซาชูเซตส์

 

Ruben, Orgie และ Golden กับผลงานของเขาใน Los Sotano ชื่อผลงาน Linda

 

   ศิลปินทั้งสามคนนี้อยู่ทางตอนใต้ของฟลอริด้าซึ่งมาจากชุมชนที่มีศิลปินคับคั่ง และเมื่อได้มาพบกัน ทุกคนต่างรู้ได้ทันทีว่า พวกเขาต้องได้มาเป็นพันธมิตรกันอย่างแน่นอน หลังจากพวกเขาได้เจอกัน และได้เห็นผลงานของกันและกัน Orgie เจอ Ruben วาดภาพเสือในงานการกุศลซึ่งช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและผู้ที่มีภาวะป่วยทางจิต ขณะที่ Golden ได้เจอกับ Ruben เพราะเขาชะงักกลางถนนเมื่อได้เห็นผลงานภาพวาดของเขาและต้องการที่จะคุยกับเจ้าของผลงานให้ได้ ในที่สุด พวกเขาจึงได้ร่วมมือกันสรรค์สร้างผลงานภาพวาดตามผนังในสเกลล์ที่ใหญ่ขึ้น เช่น ร้าน Tacocraft สาขาใหม่ ทางใต้ของไมอามี่ และทำงานให้กับ  Nicolle Miller เพื่อวาดภาพบนผ้าใบที่นำไปประมูล ทางตะวันตก ชายหาดปาล์มบีช นอกจากนี้พวกเขายังมีผลงานใหม่ล่าสุด ที่ชายหาดเดียร์ฟิลด์ ที่สวนซัลลิแวนพาร์ค - เป็นศิลปะโมเสคในที่สาธารณะซึ่งมีระยะ 52 ฟุต (บนกำแพงที่ใหญ่ที่สุดในย่านวินวูด) ซึ่งอยู่ในสวนน้ำที่สำหรับเด็ก เป็นกำแพงที่ตกแต่งด้วยโมเสคที่ยาวที่สุดในฟลอริด้า

   และกับงานศิลปะใน Los Atico ทั้งสามคนจึงได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ชิ้นงานแบบพื้นบ้านในเม็กซิโก ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากวัฒนธรรมทางศิลปะที่โดดเด่น จนถึงการไปเที่ยวร้านกาแฟที่คิวบาทำให้ได้พบศิลปินคนอื่น ๆ และได้เห็นเทคนิคกับวิธีการสร้างผลงานที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีวิธีการสกัดสีของชาวเม็กซิกัน ที่ได้เรียนรู้จากการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันตอนทานอาหารกับเพื่อนเม็กซิกัน นอกจากนี้งานของพวกเขายังเกิดมาจากการที่พบเห็นสิ่งต่าง ๆ เช่น ตามรูปปั้น ประวัติศาสตร์การปฏิวัติ และอีกมากมาย ด้วยกฎเหล็กของคู่คิดทั้งสาม ที่เห็นตรงกันว่า “ต้องมีคอนเซปก่อนลงมือทำ” จึงตกผลึกเป็นผลงานที่มีสีสันที่สดใส และเกิดเป็นภาพวาดที่สมบูรณ์แบบที่มีความเฉพาะตัวซึ่งสื่อสารออกมาเข้าใจได้อย่างเป็นสากล กราฟิตีสำหรับพวกเขาเปรียบเสมือนกับกอริลล่าตัวใหญ่ที่ไม่มีใครพูดถึงในแง่ของความแข็งแกร่งและมีพลัง และมักจะได้รับการกล่าวถึงเฉพาะในช่วงแรกที่ผลงานปรากฎต่อสายตาสาธารณชนเท่านั้น ศิลปินสามคนนี้จึงกลับไปที่ไมอามี่ เพราะพวกเขามีจุดยืนที่ชัดเจน ที่จะสร้างชิ้นงานที่ยิ่งใหญ่และโดดเด่นให้กับเมือง งานของพวกเขาจึงปรากฎอยู่ตามร้านอาหารและหน่วยงานต่าง ๆ และวันนี้ พวกเขากำลังจะนำผลงานเหล่านี้ออกไปโลดแล่นในมุมอื่นๆ ของโลก. Los Atico และ กรุงเทพมหานคร ค้นพบเพชรเม็ดงามทั้งสาม โชคดีมากที่ได้พบกับสุดยอดศิลปิน 3 คนนี้ ที่สื่อสารความคิดผ่านงานศิลปะกราฟิตี และสร้างผลงานตามเมืองใหญ่มาแล้ว วันนี้ขอเชิญทุกท่านพบกับงานศิลปะสุดพิเศษที่สร้างจากแรงบันดาลใจของชิ้นงานที่เกิดขึ้นในย่านวินวูด ซึ่งเป็นย่านศิลปะชื่อดังได้ที่ ร้าน Los Atico     เม็กซิกัน บาร์ บน สุขุมวิท ซอย 11ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 นี้

 

ติดตามผลงานได้ที่

Golden - IG: @golden305 | http://www.theartofgolden.com/ - เร็ว ๆ นี้
Ruben Ubiera - IG: @urbanruben | http://www.urbanpopsoul.com/
Orgie - IG: @lecreepofficial | http://www.iamorgieart.com/ 

Los Atico Bangkok

ที่อยู่:  ชั้น 3 ของร้าน Cali-Mex Bar&Grill ซอยสุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ 10110

โทร: 02-015-8100 

เวลาเปิด-ปิด:   5 โมงเย็น to ตี 2, วันอังคาร - อาทิตย์, หยุดวันจันทร์

###